■

เรื่องมันมีอยู่ว่าที่เว็บพันทิป มีอมยิ้มคนนึงมาเล่าประสบการณ์การทำงานที่น่าสนใจมาก งานของ จขกท คืองาน ตัดต่อหนังโป๊

■

จขกท ก็เล่ารายละเอียดของการทำงานที่น่าสนใจดี เช่น ตามกฏหมายระบุให้นักแสดงหญิงต้องพูดข้อตกลงว่ามาถ่ายหนังโป๊ด้วยความสมัครใจนะ

หรือต้องบันทึกอย่างละเอียดว่าฉากไหนจะให้เย็ดกันท่าไหน จะให้ตัดต่อคลิปตามด้วยท่าอะไร แตกนอกแตกใน บลาๆๆๆๆ

ทีนี้ประเด็นมันอยู่ตรงย่อหน้าท้ายๆของ จขกท ที่เล่าว่าลูกค้าของสตูดิโอเขาส่วนมากจะให้นางเอกเป็นคนผิวสีหมดทุกเรื่องเลย

สงสัยเจ้าของบริษัทจะเป็นคนผิวสี แต่ไม่เป็นไร ตูไม่ใช่คนเหยียดผิว (เป็นมองโกลอยด์จะไปเหยียดผิวใครอีกวะ)

ส่วนค่าตอบแทนในงานนี้ก็ไม่เยอะเท่าไหร่ แต่ที่ จขกท ทำไปพลางๆ ก็เพราะคิดว่า

สามารถเอาประสบการณ์จากที่นี่ไปต่อยอดที่อื่นได้ ก็เลยคิดซะว่า “ทำสารคดีอุรังอุตังให้ช่อง discovery ก็แล้วกัน”

■

■

ชาวพันทิปก็แซว จขกท ว่า นี่ขนาดมึงไม่เหยียดผิวยังเรียกเขาว่าอุรังอุตังเลยเนอะ

■

มีคนแก้ตัวแทน จขกท ว่าคงไม่ถือว่าเหยียดผิวหรอกมั้ง เพราะคนไทยก็มักจะเรียกหนังโป๊ว่าเป็นสารคดีสัตว์โลกอยู่แล้ว

■

ชาวพันทิปคนที่คิดว่า จขกท เหยียดผิวตอบว่าถ้าเป็นที่เมืองไทยอาจจะไม่ซีเรียส แต่ถ้าใช้คำๆนี้ที่ต่างประเทศนี่เรื่องใหญ่แน่นอนว่ะ

■

ที่เมืองนอกเนี่ย เขาใช้คำว่าลิงแทนความหมายในการเหยียดผิวนะเออ อย่างเมื่อวันก่อน มีแฟนฟุตบอล

โยนเปลือกกล้วยลงไปในสนามให้กับนักบอลผิวสี นั่นก็ถือว่าเป็นการเหยียดผิวรูปแบบนึงเหมือนกัน

■

■

ชาวพันทิปที่ไม่พอใจก็ตำหนิ จขกท ว่ามึงอ่ะ เหยียดผิวเต็มๆเลยรู้ตัวเอาไว้ด้วย

■

เท่าที่อ่านดู จขกท น่าจะไม่ชอบสาวๆผิวสี ซึ่งก็ไม่แปลกเพราะคนเรามีรสนิยมแตกต่างกัน

บางคนชอบขาวหมวย บางคนชอบแนวลาติน บางคนก็ชอบแบบผิวสี

แต่การที่เอ็งเปรียบเทียบหนังโป๊ของคนผิวสีเป็นสารคดีอุรังอุตังเนี่ยมันเกินไป

มันแสดงให้เห็นว่าเอ็งกำลังมองสรีระร่างกายของคนผิวสีเป็นอะไรที่น่าเกลียดน่ากลัว

ลองนึกดูว่าถ้ามีคนผิวขาวเอาคนผิวเหลืองอย่างเราๆไปเปรียบเทียบกับจิ้งจกเพราะผิวเหลืองๆเหมือนกันมึงจะรู้สึกยังไง

■

มีคนแย้งว่า จขกท เขาไม่ได้ไปด่าคนผิวสีต่อหน้าว่าเหมือนอุรังอุตังซักหน่อย แค่เอามาเล่าให้คนไทยได้ฟัง

ในเว็บพันทิปที่มีแต่คนไทยล้วนๆ ไม่ถือว่าเหยียดผิว เหยียดชาติพันธ์หรอกน่า

■

ชาวพันทิปตอบว่าเหยียดสิวะ ไม่ว่ามึงจะทำต่อหน้าหรือลับหลังถ้ามึงใช้คำในลักษณะนี้มันก็คือการเหยียดผิวทั้งนั้นแหละ

■

จขกท เห็นคนเถียงกันเรื่องเหยียดผิวรัวๆ ก็เอามือทาบอกแล้วร้องว่าขุ่นพระ

ไม่นึกเลยว่ากระทู้เล่าเรื่องการทำงานตัดต่อหนังโป๊ของตู มันจะแตกหน่อได้ถึงขนาดนี้

ขอยืนยันว่าตูไม่เหยียดผิวจริงๆนะเออ เพราะตูทำงานอยู่ที่อเมริกา เพื่อนพ้องคนรู้จักกรูที่เป็นคนผิวสีก็มีเยอะแยะ

แต่การที่มีคนไทยไม่พอใจคิดว่ากรูกำลังเหยียดผิว คงเป็นเพราะว่าคนไทยเป็นชนชาติที่อ่อนไหวที่สุดในโลกก็เป็นได้

เอาเข้าจริงๆต่อให้หนังโป๊ที่ตูตัดต่อ ไม่ใช่คนผิวสี ตูก็ไม่ชอบอยู่ดี เพราะตูชอบแบบเอเซียมากกว่า

ถ้าย่อหน้าสุดท้ายของตูเป็นหนังโป๊ฝรั่งผิวขาวแทนที่จะเป็นคนผิวสี ตูก็คงเปรียบนักแสดงพวกนั้น

เป็น “ลิง” อยู่ดี แต่อาจจะเปลี่ยนจากอุรังอุตังเป็นลิงเผือกแทนก้เป็นได้

■

ชาวพันทิปที่ไม่พอใจ จขกท อ่านคำชี้แจงของ จขกท จบก็ฟันธงชัวะๆว่า มึงเหยียดผิวอย่างแน่นอนเว้ย

■

ถ้าไม่เชื่อ แน่จริงเอ็งก็เปิดเผยชื่อบริษัทที่เอ็งทำงานอยู่ให้กรูรู้ดิวะ เด๋วกรูจะส่งเมล์ไปร้องเรียนบริษัทมึง

ว่ามึงมาตั้งกระทู้เปรียบเทียบลูกค้าเป็นอุรังอุตังในเว็บพันทิป กรูอยากรู้นักว่ามึงจะโดนเจ้านายไล่ออกเพราะเหยียดผิวมั้ย

■

เล่าเรื่องการทำงานตัดต่อหนังโป๊ดีๆก็จบแล้ว ต่อให้มันเป็นงานที่น่าเบื่อ

จนเอ็งเอาไปเปรียบเทียบกับการตัดต่อคลิปสารคดีสัตว์โลกผสมพันธ์

แต่การเปรียบเทียบคนผิวสีเป็นอุรังอุตังไม่ว่ามึงจะแก้ตัวยังไงมันก็คือการเหยียดผิวอยู่ดี

ถ้ามึงบอกว่าตัดต่อสารคดีปลาโลมา หรือกระต่าย คงไม่กลายเป็นดราม่าแบบนี้หรอก

■

■

มีคนถามว่า แล้วปลาโลมา กระต่าย กับอุรังอุตังมันแตกต่างกันยังไงวะ

■

อมยิ้มคนนึงตอบว่า เพราะ อุรังอุตังมันเป็นลิง ซึ่งคำว่าลิงเนี่ย มันใช้ในเชิงเหยียดผิวกันเยอะมากมาย

สมมุติว่าเราถูกด่าว่าเป็นไอ้กระต่าย ไอ้ปลาโลมา มันไม่เจ็บจี๊ดเท่าถูกด่าว่าเป็นลิงหรอกว่ะ

■

ชาวพันทิปที่ไม่เห็นด้วยและคิดว่า จขกท ไม่ได้เหยียดผิวก็แย้งว่าบางที จขกท เขาอาจจะ

เปรียบเทียบหนังโป๊ว่าเป็นสารคดีอุรังอุตัง แต่ไม่ได้เปรียบเทียบคนผิวสีเป็นอุรังอุตังก็ได้นะ

■

■

ไอ้พวกที่คิดว่า จขกท เหยียดผิวอ่ะ พวกมึงมันคิดมากกันไปเอง กุอ่านที่ จขกท เล่าแล้วไม่เห็นจะเหยียดผิวตรงไหนเลย

■

 ■

มีคนแก้ตัวแทน จขกท ว่า จขกท คงตัดต่อหนังโป๊จนเอียน ก็เลยเปรียบเทียบคลิปพวกนี้เป็นสารคดีสัตว์โลก

ต่ที่ จขกท เอาอุรังอุตังมาเปรียบเทียบกับคนผิวสี เพราะอุรังอุตังเป็นลิงพันธ์ที่ใกล้เคียงกับมนุษย์ล่ะมั้ง

แต่การที่ จขกท ไม่มีรสนิยมชอบสาวผิวสีแล้วแสดงออกมาแบบนี้ ไม่ถือว่าเหยียดผิวนะ รสนิยมของคนเรามันบังคับกันได้ซะที่ไหน

■

ไอ้พวกที่หาว่า จขกท เขาเหยียดผิวอ่ะ ระวังมึงจะถูกลิงอุรังอุตังฟ้องร้องพวกมึงในข้อหาเหยียดสปีซี่นะเว้ย

แหม่ ทำเป็นสะดีดสะดิ้งไม่พอใจเวลาคนผิวสีถูกเปรียบเทียบเป็นอุรังอุตัง เป็นอุรังอุตังมันไม่ดีตรงไหน

ลิงอุรังอุตังมันน่ารักจะตายไป พวกมึงอย่าอ่อนไหวกับประเด็นเหยียดผิวกันให้มากนักเลย

■

บางทีการที่คนเราตื่นตัวกับการเหยียดผิวมากเกินไป มันอาจจะเป็นการสร้างความเหยียดผิวขึ้นมาแทนที่ของเดิมก็ได้

ยกตัวอย่างเช่น คำว่า Nigga คนผิวสีเขาก็ใช้คำนี้ในกลุ่มคนผิวสีด้วยกันบ่อยๆ แต่พอคนผิวขาวเอาไปพูดมั่ง

กลับกลายเป็นการเหยียดผิวซะงั้น สรุปว่า จขกท ไม่น่าจะเหยียดผิวหรอกว่ะ แค่เรียกคนผิวสีเป็นอุรังอุตังเอาฮาซะมากกว่า

■

ชาวพันทิปที่ตำหนิ จขกท บอกว่า จขกท มันเหยียดผิวเห็นๆ ตอนอ่านย่อหน้าท้ายๆที่มันพูดถึงอุรังอุตัง

ตูก็ยังคิดว่าไอ้หมอนี่คงไม่มาแสดงความเหยียดผิวให้เห็นกันโต้งๆแบบนี้หรอกมั้ง แต่พอมันมาชี้แจงอีกทีนี่ชัดเจนเลยว่ะ

น่าเสียดายที่มีคนให้ท้ายมัน มันเลยเหลิงคิดว่าตัวเองไม่ได้เหยียดผิว ทุกวันนี้คนเอเชียอย่างเราๆ

ก็ยังคงโดนเหยียดผิวในต่างประเทศมาจนถึงทุกวันนี้ แต่มันไม่ทำให้สิ่งมีชีวิตที่ชื่อว่าคนไทย

ตระหนักรู้ขึ้นมาได้เลยว่าการเหยียดผิว เหยียดชาติพันธ์มันเป็นเรื่องร้ายแรงขนาดไหน

■

คงเป็นเพราะคนไทยนั้นเหยียดกันจนเคยชิน เหยียดกันเป็นสันดานจนไม่รู้ว่าที่ทำอยู่คือการเหยียดล่ะมั้ง

เอาเป็นว่า จขกท ช่วยเปลี่ยนคำพูดเอาคำว่าอุรังอุตังออกไปเหอะ ถ้าคุยเล่นๆกับเพื่อนสองคน

จะใช้คำนี้ก็พอว่า แต่นี่เป็นเว็บบอร์ดที่มีคนอ่านร้อยพ่อพันแม่ จะใช้คำอะไรก็ถนอมน้ำใจคนอื่นบ้างเหอะ

■

ชาวพันทิปที่เข้าข้าง จขกท ก็เชียร์ จขกท ว่าเมิงไม่ต้องแก้เว้ย ไม่ต้องลบคำว่าอุรังอุตังทิ้ง

ใครที่รับไม่ได้ก็เรื่องของมัน ปล่อยให้แม่งทำตัวเป็นผู้ดีจอมปลอมในโลกออนไลน์ต่อไปเหอะ

■

โถ ไอ้พวกลิงเหลือง ทำมาเป็นเดือดร้อนแทนคนผิวสีกันแทบเป็นแทบตาย

■

เด๋วนี้ทำไมคนมันใช้คำว่าเหยียดผิวกันสุรุ่ยสุร่ายจังวะ เอะอะก็ เหยียดผิว เอะอะก็เหยียดชาติพันธ์

ต่อให้ จขกท เขาเรียกคนผิวสีว่าไอ้นิโกร กรูก็ไม่ถือว่าเขาเหยียดผิวว่ะ เพราะเขาแค่ต้องการสื่อว่า

ไอ้นี่มันเป็นนิโกร มันเป็นคนผิวสีก็เท่านั้นเอง ไอ้คนที่ชอบหาว่าคนอื่นเหยียดผิวอ่ะ พวกมึงต่างหากที่เหยียดผิวตัวพ่อ

 ■

พวกมึงมันก็แค่บ้าเห่อกระแสต้านเหยียดผิวตามฝรั่งเท่านั้นแหละทุกวันนี้ฝรั่งมันก็ไม่ค่อยเล่นเรื่องการเหยียดผิวซักเท่าไหร่แล้ว

มีแต่ไอ้พวกกระแดะแถวๆนี้นั่นแหละ ที่อยากอพยพไปอยู่ต่างประเทศจนตัวสั่นก็เลยเกาะกระแสต้านการเหยียดผิวให้ฝรั่งมันพอใจ

■

คนที่ตำหนิ จขกท ก็เถียงว่าพวกกรูไม่ได้เกาะกระแสต้านการเหยียดผิวเว้ย

แต่พวกกรูต่อต้านการเหยียดผิวเพราะมันผิดต่อหลักจริยธรรมและมนุษยธรรม

■

  คนไทยหลายๆคนในกระทู้นี้ไม่เข้าใจว่าการเปรียบเทียบคนผิวสีมันเป็นการเหยียดผิวตรงไหน

แต่ถ้ามึงอยู่ที่อเมริกาเหมือน จขกท มึงต้องรู้ว่ามันมีความหมายในเชิงเหยียดผิวชัดเจน จะแถว่าไม่รู้ไม่ได้เด็ดขาด

ขนาดที่อเมริกาเขารณรงค์ต่อต้านการเหยียดผิวกันปาวๆ แต่เรื่องที่เขารณรงค์กันกลับไม่ซึมเข้าหัว จขกท เลยซักกระผีก

แต่เสือกไปซึมซับสันดานเหยียดผิวเหยียดชาติพันธ์ของไอ้พวกฝรั่งเลวๆมาแทนซะงั้น

■

อันที่จริงเราไม่ควรเทียบมนุษย์กับสัตว์ชนิดใดๆเลยด้วยซ้ำ ยกตัวอย่างง่ายๆ เช่น กระเทยมักชอบเรียกหญิงไทยว่าชะนี

ที่เขาเรียกผู้หญิงว่าชะนีนี้ไม่ได้หมายความว่าผู้หญิงน่ารักน่าเอ็นดูเหมือนชะนีตัวน้อยๆ

แต่เขาต้องการเสียดสีผู้หญิงว่าจ้องจะจับผู้ชายเหมือนชะนีที่ร้อง ผัว ผัว ผัว อยู่ตลอดเวลา

การถูกเปรียบเปรยกับสัตว์บางชนิดโดยมีความหมายแฝงในแง่ลบก็ประมาณนี้ ไม่แปลกหรอกถ้าจะมีคนผิวสีไม่พอใจ

เมื่อมีคนเอาตัวเองไปเปรียบเทียบกับอุรังอุตัง ขนาดคนไทยจำนวนไม่น้อยยังไม่พอใจเวลาถูกเอาไปเปรียบเทียบกับตัวเงินตัวทองเลยนี่นา

■

หลังจากนั้นชาวพันทิปก็เถียงกันรัวๆว่าการเปรียบเทียบคนผิวสีเป็นลิงอุรังอุตังนั้นเป็นการเหยียดผิวหรือไม่

ดราม่านี้ขอทิ้งท้ายด้วย ข้อมูลทางประวัติศาสตร์ซักเล็กน้อย เมื่อประมาณร้อยปีที่แล้ว ตอนที่คนผิวขาวกำลังล่าอาณานิคมไปทั่วโลก

สิ่งที่เกิดขึ้นในยุคนั้นคือ “สวนสัตว์มนุษย์” ที่คนผิวขาวเอาคนชาติต่างๆ เช่น ชาวพื้นเมืองแอฟริกา ชาวปิ๊กมี่ กระทั่งคนอินเดียแดง

มาจัดแสดงวิถีชีวิตของพวกเขาเหล่านั้นในสวนสัตว์มนุษย์ หรือจัดแสดงคู่กับลิงชิมแพนซีอะไรเทือกนั้น

■ ■

ฐานะของผิวสีในยุคนั้น เป็นอะไรที่อยู่กึ่งกลางระหว่างการวิวัฒนาการจากลิง มาเป็น มนุษย์

สวนสัตว์มนุษย์เหล่านี้มีวัตถุประสงค์ทางการเมืองแฝงด้วย คือแสดงให้เห็นถึงความไร้อารยะของคนผิวสี

เพื่อสร้างความรู้สึกว่า เป็นหน้าที่ของคนผิวขาวที่จะต้องเข้าไปยึดครองดินแดนและปกครองคนพวกนี้เพื่อให้มีอารยะ

ตามแนวคิด White man ‘s burden บทกวี ที่เขียนโดยรัดยาร์ด คิปลิง เจ้าของผลงานที่คนไทยรู้จักกันดี “เมาคลีลูกหมาป่า”

ในบทกวีนี้ระบุว่าจักรวรรดินิยม และการล่าอาณานิคมนั้นเป็น “สิ่งจำเป็น” และเป็นภาระอันยิ่งใหญ่ของคนขาว

เพราะอารยธรรมคนขาวนั้นอยู่เหนืออารยธรรมชาติอื่นที่ไม่ใช่คนขาว แม้ว่า “ภาระคนขาว” ที่ว่านี้

จะหมายรวมถึงการใช้ความรุนแรงกับคนอื่นก็ตาม และ การการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ซึ่งเกิดขึ้น

ในหลากหลายพื้นที่ในโลกใบนี้  ก็รวมอยู่ใน“ภาระ” อันชอบธรรมของคนขาวด้วยเช่นกัน

อ่านต่อได้ที่: https://www.gotoknow.org/…/312920

■

■

ดังนั้นการเปรียบเปรยว่ามนุษย์คนใดก็ตาม เป็นลิง ก็เปรียบเสมือนการกดขี่และดูหมิ่นเหยียดหยามว่าเขามีลำดับขั้นที่ต่ำกว่ามนุษย์นั่นเอง

ถึงแม้ว่าทุกวันนี้จะไม่มีสวนสัตว์มนุษย์แล้ว แต่การเหยียดชาติพันธ์หรือเหยียดผิวด้วยการเปรียบมนุษย์เป็นลิงก็ยังดำรงอยู่

■

ยกตัวอย่างเช่น นักฟุตบอล ดานี อัลเวส นักฟุตบอลชาวบราซิลที่เตะให้สโมสรบาร์เซโลนา

ก็ถูกแฟนบอลที่เหยียดผิว ปากล้วยใส่ เพื่อเหยียดหยามว่าเขาเป็นลิง ซึ่งดานี อัลวีส ก็แก้เกมโดยหยิบกล้วยขึ้นมากินซะเลย

■

หลังจากเหตุการณ์นั้น เพื่อนๆนักฟุตบอล ก็พากันอัพรูปกินกล้วยเพื่อให้กำลังใจ ดานี อัลเวส เช่น เนย์มาร์จากบาร์เซโลน่า

■

แซจิโออเกวโร่กองหน้าชาวอาเจนไตน์จาก แมนเชสเตอร์ ซิตี้

■

หลุยส์ ซัวเรส, ฟิลิปเป้ คูตินโญ่ สองแข้งละตินจาก ลิเวอร์พูล

■

เดบิท External Link

ส่วนแฟนบอลที่ปากล้วยใส่เขา ก็ถูกตำรวจจับกุมส่วนสโมสรที่แฟนบอลคนนี้เชียร์ก็ถูกปรับเงินจนตูดบานไปตามระเบียบ

http://www.bbc.co.uk/…/27316855

ดังจะเห็นได้ว่าในประเทศที่พัฒนาแล้ว การเหยียดคนว่าเป็นลิง ไม่ว่าจะอุรังอุตัง หรือชิมแพนซีก็ตาม มันเป็นเรื่องใหญ่

แต่สำหรับประเทศไทย ไม่เป็นเพราะ เพราะเรายังไม่พัฒนา จบข่าว

อาห์ แล้วดราม่านี้จะลงเอยเช่นไร หรือเราจะเคยชินกับการเหยียดชาติพันธ์กันจนเกินไปซะแล้ว

พวกเธอว์จงตามไปเสพในกระมู้นี้โดยพลัน!!

http://pantip.com/…/33329416

■

เรื่องมันมีอยู่ว่าที่เว็บพันทิป มีหมอคนนึงมาตั้งกระทู้เล่าเกี่ยวกับชีวิตของเด็กนักเรียนคนนึง

ที่ชะตาต้องพลิกผันเมื่อเธอพลาดพลั้งให้ชาวพันทิปฟัง จขกท เล่าว่าเด็กผู้หญิงคนดังกล่าวอายุ 16 ปี

เรียนที่โรงแห่งนึง มีผลการเรียนดี มีควาใฝ่ฝันอยากเป็นเภสัชกร

อยู่มาวันนึงเธอพลาดมีเพศสัมพันธ์โดยไม่ป้องกันจนท้อง พอครอบครัวรู้ก็เสียใจ

แต่ตัดสินใจไม่เอาเด็กออก พามาฝากครรภ์ที่ รพ แทน จขกท ก็เข้ามามีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ตรงนี้

ประเด็นคือพอเด็กตั้งท้อง ครอบครัวของเด็กก็แจ้งโรงเรียนว่าขอพักการเรียนเพื่อลาคลอด

แต่ทางโรงเรียนกลับแจ้งว่า “การตั้งครรภ์ผิดกฏโรงเรียน ต้องลาออก” ทางครอบครัวก็เลยจำใจให้เด็กลาออกจากโรงเรียน

แต่พอคลอดลูกแล้วก็กลับไปเรียนซ้ำชั้นที่โรงเรียนเดิม แต่ถูกสังคมรอบข้างกดดันจนไม่สามารถเรียนต่อไปได้

ต้องลาออกมาในที่สุด ตอนนี้เด็กวัยรุ่นที่ผลการเรียนดีเคยตั้งเป้าจะเป็นเภสัชคนนี้ ก็ทำมาหากินโดยการเป็นหางเครื่องพลางเลี้ยงลูกพลาง

■

จขกท บอกว่า การที่โรงเรียนและสังคมปิดกั้นอนาคตของเด็ก มันเป็นเรื่องที่โคตรจะไม่เป็นธรรมเลย

ทำไมถึงต้องให้เด็กที่ตั้งครรภ์ลาออกจากโรงเรียนวะ แทนที่จะให้เด็กลาออก หรือปล่อยให้สังคมกดดัน

จนเด็กต้องออกลาออกด้วยความจำยอม เราควรจะทำให้เด็กคนนี้ได้ใช้ชีวิตวัยเรียนอย่างปรกติเหมือนเพื่อนๆวัยเดียวกันไม่ใช่เรอะ

และนี่ไม่ใช่เคสเดียวที่ จขกท เจอ แต่มีเด็กหลายคนที่พลาดจนตั้งท้อง และครูโรงเรียนนั้นกดดันให้ลาออก

โดยอ้างว่าเป็นกฏของโรงเรียน  จขกท กล่าวว่าการบังคับให้เด็กลาออก นอกจากจะไม่แก้ปัญหาใดๆแล้ว ยังเป็นการซุกปัญหาไว้ใต้พรม อีกด้วย

อย่าคิดว่ากรูไม่รู้นะว่าที่ครูให้เด็กลาออก เพราะกลัวว่าถ้ามีเด็กตั้งครรภ์ในวัยเรียนที่โรงเรียนนั้นเยอะ โรงเรียนจะตกประเมิน

■

ชาวพันทิปก็แสดงความเห็นเกี่ยวกับประเด็นนี้กันอย่างดุเดือด มีทั้งคนที่เห็นด้วยกับ จขกท ว่า

โรงเรียนไม่ควรตัดอนาคตเด็ก ควรจะเปิดโอกาสให้เด็กได้แก้ตัวบ้าง

■

กับคนที่ไม่เห็นด้วยกับ จขกท แถมยังถามกลับว่า ถ้าเด็กมันใฝ่เรียนจริงๆ ก็ให้มันไปสมัครที่โรงเรียนอื่นดิ

■

ถ้าเด็กมันรักเรียนจริงๆ ต่อให้มันถูกโรงเรียนไล่ออก มันก็สามารถไปเรียนต่อ กศน จนเข้ามหาลัยได้

ไอ้พวกที่เข้าข้างเด็กอย่าโลกสวยให้มันมากนักเลย ให้เด็กมันโดนลงโทษเพราะการกระทำของมันเหอะ

■ 

คนที่ไม่เห็นด้วยก็แย้งว่าถ้ามึงจะลงโทษ ก็ลงโทษด้วยวิธีอื่นที่ไม่ใช่วิธีที่ส่งผลต่อชีวิตเด็กในระยะยาวแบบนี้

การให้เด็กออกจากโรงเรียน ไม่ให้มีโอกาสเรียนหนังสือภาคบังคับในระบบ มันไม่ใช่วิธีที่เข้าท่าเลยซักนิด

เพราะถ้าเด็กหมดโอกาสในการศึกษา มันจะส่งผลต่อการทำมาหากินหาเลี้ยงชีพในระยะยาวของเขา

ถ้าชีวิตแม่คุณภาพไม่ดี ชีวิตของลูกที่ไม่รู้อิโหน่อิเหน่ที่กำลังจะเกิดมามันก็จะไม่ดีเหมือนกัน

ขนาดนักโทษที่ทำผิดร้ายแรงจนถูกขังอยู่ในคุก ยังได้รับโอกาสทางการศึกษา ให้เรียนหนังสือทางไปรษณีย์เลย

หรือพวกนักร้องดาราชื่อดัง ขับรถชนคนตาย หรือใช้ยาเสพติด แป๊บๆก็กลับมาลอยหน้าลอยตาในสังคมได้ดังเดิมแล้ว

ทำไมกะอีแค่เด็กผู้หญิงคนนึงที่พลาดพลั้งไป แต่ยังตัดสินใจเก็บเด็กเอาไว้ พวกมึงจะให้โอกาสเขาไม่ได้เลยหรือ

ความผิดของเด็กผู้หญิงคนนี้มันเลวร้ายยิ่งกว่านักโทษคดีฆ่า คดียาเสพติด คดีข่มขืนที่ถูกขังในคุกอีกเหรอวะ

■ 

มีอมยิ้มคนนึงบอกว่า ให้ถือซะว่าเด็กที่หมดอนาคตคนนี้ เป็นกรณีตัวอย่างให้เด็กคนอื่นๆดูก็แล้วกัน

ว่าถ้าท้องในวัยเรียนขึ้นมาจะต้องประสบชะตากรรมยังไง ไม่งั้นถ้าให้โอกาสเด็กพวกนี้กันมากเกินไป

มันจะทำให้การท้องในวัยเรียนกลายเป็นเรื่องธรรมดา อีกหน่อยเด็กแม่งได้ป่องกันทั้งชั้นเรียนกันพอดี

ส่วนอีนู๋คนนี้ก็อย่าโทษใคร อย่าโทษสังคม อย่าโทษระบบการศึกษา มันเป็นเพราะความผิดของตัวเอ็งนั่นแหละ

■

■

ชาวพันทิปก็ด่าอมยิ้มพวกนี้ว่า สัส เด็กไทยจะไม่มีที่ยืนในสังคมก็เพราะคนอย่างพวกมึงนี่ล่ะ

■

ใครมันจะบ้าเห็นเพื่อนท้องในวัยเรียนแล้วคิดว่ามันโก้เก๋ อยากท้องในวัยเรียนมั่งจุงเบยมั่งวะอีบ้า

การตั้งท้องในวัยเรียนมันเป็นภาระในชีวิตชัดๆ ยิ่งถ้าให้โอกาสเด็กที่ท้องในวัยเรียน

ได้ไปโรงเรียน ได้เอาลูกไปเลี้ยงไปให้นมที่โรงเรียน เพื่อนๆจะยิ่งเห็นว่าการท้องในวัยเรียนมันลำบาก

ต้องมานั่งเลี้ยงลูกให้นมลูก ในขณะที่เพื่อนๆไปวิ่งเล่นกระโดดยางกันอย่างสนุกสนาน

■

ถ้าเด็กไทยมันบ้าจี้ถึงขั้นเห็นว่าการท้องในวัยเรียนเป็นเรื่องเข้าท่าน่าเอาเยี่ยงอย่างจริง

ป่านนี้คงมีเด็กท้องในวัยเรียนจนโดนไล่ออกเป็นขโยงแล้วล่ะเว้ย เด็กไทยมันก็ไม่ได้โง่ถึงขนาดนั้นนะ

■

แล้วการเอาคนส่วนน้อยมาเชือด เพื่อให้คนส่วนมากมองเข้าใจว่าอะไรผิดอะไรถูก

โดยเอาโอกาส เอาอนาคต ของคนส่วนน้อยมาแลก  มันเหมาะสมแล้วเรอะ

ทำไมการสอนจริยธรรมของเมืองไทยเมืองพุ๊ด  มันถึงได้โหดสัสรัสเซียขนาดนี้

แต่ผลลัพท์ที่ออกมากลับตรงกันข้ามกันเลยว่ะ กรูเห็นเด็กเสียอนาคต

เพราะท้องในวัยเรียนตั้งเยอะแยะ แต่เด็กไทยมันก็ยังท้องในวัยเรียนเยอะติดอันดับโลกอยู่ดี

■

เด็กที่พลาดพลั้งจนตั้งท้อง เขาก็จะถูกคนรอบข้างติฉินนินทาหรือว่าร้ายเขาอยู่แล้ว

นี่คือการลงโทษทางสังคมรูปแบบนึง แบบที่พวกมึงต้องการให้เด็กกลุ่มนี้ได้รับโทษบ้างนั่นแหละ

แต่สิ่งที่เด็กได้รับ มันสาสมและเพียงพอกับสิ่งที่เขาทำลงไปแล้ว กรูเห็นคนชอบพูดกันว่า

ถ้าเด็กได้รับการศึกษาที่ดี เด็กจะรู้จักป้องกันตัวเองไม่เกิดเรื่องเช่นนี้ขึ้น

แต่ทำไมพอมีเรื่องขึ้นมาทีไร พวกมึงแม่งตัดหนทางในการเล่าเรียนของเด็กเหี้ยนเลยว่ะ

■

อมยิ้มคนนึงแย้ง จขกท ว่า จขกท จะมองว่าการตั้งท้องมันไม่เป็นอุปสรรคต่อการเรียนก็มีเหตุผลอยู่

แต่โรงเรียนก็มีการตั้งกฏไว้ให้เด็กออกจากโรงเรียนหากตั้งครรภ์ เพื่อป้องกันไม่ให้เด็กมันมีอะไรกันก่อนวัยอันควร

ดังนั้นถ้ามีเด็กไปซ่ำกันจนป่อง ไม่ว่าจะชายหรือหญิง ก็ควรให้เด็กมันออกจากโรงเรียนซะ

เด็กนักเรียนคนอื่นจะได้ไม่เอาเป็นเยี่ยงอย่าง ไม่งั้นเด็กไทยในวันหน้ามันจะไม่รู้จักยับยั้งชั่งใจ

คิดจะเย็ดกับใครก็เย็ด เพราะทำผิดแล้วสังคมก็ยังให้โอกาส สุดท้ายสังคมก็จะเละเทะ

■ ■

สรุปคือถ้าเรายอมให้เด็กที่พลาดตั้งท้องในวัยเรียน ได้กลับมาเรียนในระบบตามปรกติ มันจะเท่ากับว่า

สังคมไทยยอมรับ “การสำส่อนทางเพศ” ซึ่งมันจะเป็นดาบสองคมต่อสังคมไทยอย่างรุนแรง

ทุกวันนี้ปัญหาท้องในวัยเรียนมันก็หนักหนาสาหัสพออยู่แล้ว อย่าให้มันถึงกับมีเด็กประถมท้องในวัยเรียนเลย

■ ■

ชาวพันทิปแย้งว่า มันเป็นหน้าที่ของผู้ใหญ่รึเปล่าวะที่จะต้องสอนให้เด็กมันมีความยับยั้งชั่งใจ

ไม่ใช่พอเด็กพลาดก็โยนขี้ให้เด็กเป็นคนรับผิดชอบทั้งหมด แถมยังตัดโอกาสในการเล่าเรียนเป็นการตัดหัวเสียบประจาน

จริงอยู่ที่โรงเรียนนั้นอาจจะมีกฏไล่เด็กที่ตั้งท้องออก แต่ใช่ว่ากฏระเบียบจะถูกต้องเสมอไป

เพราะกฏระเบียบและค่านิยมในสังคมมันเปลี่ยนแปลงได้เรื่อยๆ หากเห็นว่ากฏระเบียบนั้นมีข้อบกพร่อง

ก็แก้ไขกฏระเบียบนัน้ซะ ไม่ใช่ก้มหัวยอมสยบให้กับมันไปเรื่อยๆเพียงเพราะมันเป็นกฏระเบียบ

■

■

อมยิ้มคนนึงยืนยันว่ายังไงกฏก็ต้องเป็นกฏคร่ะ ถ้าโรงเรียนมีกฏแล้วไม่ปฎิบัติตาม จะมีกฏไว้เพื่ออะไร

แล้วโรงเรียนจะกลายเป็นอะไรหากเด็กไม่ยอมทำตามกฏของโรงเรียน จริงๆแล้วต่อให้เด็กถูกไล่ออก

แต่เด็กก็ยังมีสิทธิที่จะไปเรียนการศึกษานอกระบบได้นะ เหมาะกับคนท้องมากกว่าการศึกษาในระบบเยอะ

■

ชาวพันทิปก็แขวะอมยิ้มคนนี้ว่าอ่านความเห็นของคนไทยอย่างมึงแล้วกรูอยากอพยพไปอยู่ต่างประเทศเหลือเกินคร่ะ

■

อมยิ้มรายเดิมก็แนะนำว่าเชิญมึงอพยพไปเมืองนอกเลยค่ะ แต่ไม่ว่ามึงจะย้ายไปอยู่ที่ไหน

ถ้ามึงยอมรับกฏระเบียบของที่นั่นไม่ได้ มันก็อยู่ไม่เป็นสุขอยู่ดีล่ะค่ะ

■

ชาวพันทิปตอบว่าไม่ใช่กรูรับกฏระเบียบไม่ได้นะ แต่กรูรับไม่ได่ที่ต้องอยู่ร่วมในสังคมเดียวกับคนที่มีทัศนติแบบเอ็งมากกว่า

 ■

ไอ้พวกที่เห็นเด็กพลาดพลั้งแล้วรีบบอกเด็กว่าลาออกไปเลยนะ อีเด็กสำส่อน อีเด็กไร้ยางอาย

มึงท้องแล้วยังสะเออะมาเรียนหนังสือทำไม ไม่เข้าใจเหรอว่าโรงเรียนมีกฏห้ามเด็กนักเรียนท้องนะ

คนอย่างพวกมึงนอกจากจะไม่ช่วยแก้ปัญหาให้เด็กแล้ว ยังซุกปัญหาไว้ใต้พรม แถมยัดปัญหาทั้งหมดให้เด็กแบกรับไว้คนเดียว

จากนั้นพอถีบเด็กออกจากระบบได้อย่างเนียนๆก็ทำเป็นเชิดหน้าชูคออวดว่าโรงเรียนของชั้นน่าอยู่ เด็กๆรักนวลสงวนตัวทุกคน

แน่นอน ก็มึงเล่นไล่เด็กที่มีปัญหาออกจนหมดแล้ว มันจะมีเด็กที่ท้องในวัยเรียนหลงเหลืออยู่ในโรงเรียนมึงได้ยังไง

■

อมยิ้มคนนึงก็แขวะชาวพันทิปว่าเพราะพวกมึงให้ท้ายเด็กกันแบบนี้ไง เด็กไทยทุกวันนี้ถึงได้โง่โคตรๆ

อ่านหนังสือก็ไม่ออก ดีแต่สร้างปัญหาให้พ่อแม่ครูบาอาจารย์เดือดร้อน สุดท้ายก็มาโทษว่าเป็นความผิดของสังคม

ทั้งๆที่มันเป็นความผิดของตัวเด็กเองนั่นแหละ มึงทำชั่วอะไรไว้ก็รับกรรมไปสิวะ หรือถ้าอยากมีผัวในวัยเรียนนัก

มึงก็ไปเรียน กศน ซะสิ เรียนนอกระบบแล้วมึงจะมีผัวซักกี่คนก็เชิญ แต่ถ้ายังอยู่ในระบบ

ถามจริงๆคนที่ให้ท้ายเด็กพวกนี้ เป็นมึง มึงจะส่งลูกหลานไปเรียนในห้องเรียนที่มีเด็กท้องในวัยเรียนมั้ยวะ

■

สรุปคือกฏยังไงก็ต้องเป็นกฏในเมื่อสมัครใจเรียนในโรงเรียนที่มีกฏห้ามไม่ให้ตั้งท้อง เมิงก็ต้องปฎิบัติตาม

ลองนึกภาพดูว่าถ้าเกิดโรงเรียนปล่อยให้เด็กท้องมาเรียนหนังสือกับเพื่อนๆ ชาวบ้านชาวช่องเขาจะติฉินนินทาโรงเรียนว่ายังไง

บางทีชาวบ้านอาจจะมองว่าโรงเรียนนี้กฏระเบียบย่อหย่อน หรืออาจจะมองโรงเรียนในแง่ลบจนเกิดความเสียหายก็ได้

ดังนั้นเมื่อมีเด็กละเมิดกฏระเบียบของโรงเรียน เราต้องให้มันออกทันที ไม่มีคำว่าเห็นใจใดๆทั้งสิ้น

เพื่อให้กฏระเบียบดำรงไว้ซึ่งความศักดิ์สิทธิ์ ประหนึ่งเชือดไก่ให้ฝูงลิงดู

■

ชาวพันทิปก็เถียงว่าเชือดไก่ให้มึงดูพ่องมึงสิ นอกจากไก่จะตายเปล่าแล้วมันยังไม่ช่วยให้ฝูงลิงเปลี่ยนทัศนคติได้เลย

แล้วการตั้งท้องในวัยเรียนมันผิดกฏหมายตรงไหนวะ เมื่อเด็กตั้งท้องในวัยเรียน เขาก็เดือดร้อนจากสายตาคนรอบข้างพอแล้ว

มันเป็นธุระกงการอะไรของพวกมึงที่จะต้องไปซ้ำเติมเขาด้วยการเชือดให้ฝูงลิงดู

■

ไอ้คนที่อวยกฏระเบียบรัวๆว่า มึงรู้มั้ยเนี่ยว่ากฏระเบียบของโรงเรียนที่พวกมึงอวยอยู่

มันขัดกับกฏหมายที่สำคัญที่สุดของประเทศอย่างรัฐธรรมนูญนะ คือเด็กต้องได้รับการศึกษาภาคบังคับจนจบ

แต่กฏระเบียบของโรงเรียนกลับไม่ให้เด็กเรียนจนจบภาคบังคับ แบบนี้มันไม่ขัดกับรัฐธรรมนูญเหรอวะ

■

การตั้งท้องในวัยเรียนไม่ผิดกฏหมาย แต่การที่โรงเรียนไล่เด็กออกเพราะกังวลต่อภาพพจน์ของโรงเรียนต่างหากที่ผิดกฏหมายเต็มๆ

■

มีครูคนนึงกล่าวว่า วิธีการแก้ปัญหาท้องในวัยเรียนของโรงเรียนในสมัยนี้มันน่าสลดสิ้นดี

เพราะสังคมไทยเป็นสังคมเอาหน้า ห่วงแต่ภาพลักษณ์ ไม่สนใจมนุษยธรรมและการแก้ปัญหาที่ถูกวิธี

จริงอยู่ที่การท้องในวัยเรียนมันไม่ถูกต้อง แต่เมื่อเด็กพลาดแล้ว คนที่เป็นครูก็ควรจะช่วยเด็กแก้ปัญหา

คิดซะว่าเด็กเป็นลูกหลานที่ทำผิดพลาด ควรช่วยเหลือกันให้โอกาสกัน ไม่ใช่เห็นเด็กพลาดแล้วกระทืบจนจมดิน

■

จริงๆแล้วโรงเรียนกับครู ควรจะมองว่าการที่เด็กท้องในวัยเรียน เป็นความรับผิดชอบร่วมของตัวเองด้วยซ้ำ

ที่ไม่มีปัญญาสั่งสอนเด็กให้รู้จักป้องกันจนพลาดพลั้งขึ้นมา ถ้าเด็กที่ จขกท เล่าเป็นลูกศิษย์กรู

กรูจะไม่ไล่เด็กออกจากโรงเรียน แต่จะทำทุกวิถีทางให้เด็กได้เรียนต่อ อาจต้องไปพูดคุยกับเพื่อนๆของเด็กคนนี้

ให้เขาเข้าใจ และช่วยกันเป็นกำลังใจให้เด็กเรียนต่อไปได้ หรือถ้าเด็กอยากย้ายโรงเรียนไปสู่สังคมใหม่

ก็เป็นหน้าที่ครูที่จะต้องช่วยประสานงานกับโรงเรียนอื่นๆให้เด็กคนนี้ได้ย้ายไปเรียนจนจบการศึกษาและมีอนาคตที่ดี

■

หลังจากนั้นชาวพันทิปก็เถียงกันรัวๆว่าถ้าเด็กนักเรียนเกิดตั้งท้องขึ้นมา ควรจะทำยังไง ระหว่างให้โอกาสเด็ก

กับจับเด็กมาไล่ออกเป็นการเชือดไก่ให้ลิงดูแม่งเลย ลิง เอ๊ย เด็กนักเรียนตัวอื่นๆจะได้ไม่เอาเป็นเยี่ยงอย่าง

มีอมยิ้มคนนึงถามว่า พวกมึงทั้งหลายอ่านดราม่านี้แล้วรู้สึกคลับคล้ายคลับคลาไหม

“เด็กท้อง ไล่มันออกซะ ให้มันไปเรียน กศน แทน”

“เด็กอาชีวะตีกัน ไล่มันออกซะ ยุบภาคแม่งไปเลย แล้วมันจะไปตีกันที่ไหนก็เรื่องของมัน”

“ตำรวจเก็บส่วย ก็ย้ายมันออกนอกท้องที่ซะ ส่วนมันจะย้ายไปที่ใหม่แล้วไถส่วยไหมก็ช่างแม่ม”

ที่ว่ามานี้มันคือรูปแบบการแก้ไขปัญหาสไตล์ไทยๆที่โคตรไทยเลยว่ะ การแก้ปัญหาแบบไทยๆนั้น

ก็คือการปัดสวะให้พ้นตัว โดยโยนปัญหาไปให้คนอื่นแบกรับ ส่วนกรูไม่รู้ไม่สนใจ ไม่ใช่ปัญหาของกรู ชะละล่า

ถ้าใครไม่เห็นด้วยกับกรู ก็ลองตอบมาให้ได้สิว่าการไล่เด็กนักเรียนที่ท้องออกจากโรงเรียนให้ไปเรียน กศน แทน

ทำแบบนี้แล้วได้อะไรขึ้นมา ใครได้ประโยชน์จากการไล่เด็กคนนี้ออก? โรงเรียน? สังคม? หรือตัวเด็กเอง?

ถ้ามึงตอบไม่ได้ ก็นั่นแหละ มึงไม่ได้แก้ปัญหาหรอก มึงแค่โยนปัญหาไปให้พ้นๆตัวเท่านั้น

■

อาห์ แล้วดราม่านี้จะลงเอยเช่นไร? หากลูกหลานครูบาอาจารย์เกิดพลาดพลั้ง ท้องขึ้นมาบ้าง

จะมีคุณครูคนไหนใจเด็กถึงขั้นไล่ลูกตัวเองออกจากโรงเรียนได้หรือไม่

พวกเธอว์จงตามไปเสพในกระทู้นี้โดยพลัน

http://pantip.com/…/33344971

Read more of this story at Slashdot.

Read more of this story at Slashdot.

Read more of this story at Slashdot.

Read more of this story at Slashdot.

Read more of this story at Slashdot.

Read more of this story at Slashdot.

Read more of this story at Slashdot.