■
เรื่องมันมีอยู่ว่าที่เว็บพันทิป มีอมยิ้มคนนึงมาตั้งกระทู้เล่าว่าที่โรงเรียนของหลานเขา
ในชั่วโมงเรียนศิลปะ ครูให้การบ้านเด็กนักเรียนว่าให้ไปหารูปที่สื่อถึง “ความเจ็บปวดรวดร้าวที่สุด”
มาส่งครูเป็นการบ้าน หลานเขาก็ทำตามที่อาจารย์สั่ง ไปหาภาพๆนึงมาส่งอาจารย์
ปรากฏว่าอาจารย์ไม่พอใจโทรเรียกผู้ปกครองมาคุย เพราะครูคิดว่าหลานของ จขกท หมกมุ่นเรื่องกามารมณ์มาเกินไป
■
จขกท ก็สงสัยว่าหลานตูมันหมกมุ่นตรงไหนวะ ครูจึงหยิบเอาภาพความเจ็บปวดรวดร้าวที่สุด
ที่หลานของ จขกท เอามาส่งเป็นการบ้าน มาให้ จขกท ดู จขกท เห็นแล้วก็ถึงกับร้องเหยด
ว่านี่มันคือความเจ็บปวดรวดร้าวที่สุดจริงๆว่ะ ขนาดกรูแค่เห็นภาพยังเสียวไข่เลยนะเนี่ย
■
จากนั้น จขกท ก็ฟังที่คุณครูอบรมสั่งสอนหลานแบบเงียบๆแล้วกลับบ้านมา
ด้วยความสงสัยเต็มอกว่า หลานกรูทำอะไรผิดวะ ภาพที่มันหามาส่งครูก็ถูกต้องตามโจทย์เด๊ะๆเลยนี่หว่า
เขาจึงมาตั้งกระทู้ถามชาวพันทิปว่า หลานตูหมกมุ่นในกามารมณ์เหมือนที่ครูเขาว่าจริงๆน่ะเรอะ
■
ชาวพันทิปเห็นภาพของ จขกท แล้วก็ถึงกับเอามือกุมไข่แล้วบอกกับ จขกทว่า
กรูเห็นด้วยกับมึงว่ะ อูย แค่เห็นภาพกรูก็รู้สึกเจ็บไปถึงโคนไข่กรูแล้ว
■
บ้างก็บอกว่าครูไม่ควรตำหนิหลาน จขกท แต่ควรให้คะแนนเต็มว่ะ เพราะภาพแม่งตอบโจทย์เหลือเกิน
■
มีคนตำหนิครูว่าโลกสวยสัสๆ ถึงมันจะเป็นภาพกุเจี๊ยว แต่มันไม่ได้สื่อไปในทางลามกอนาจารเลยนะ
สื่อไปในทางเจ็บปวดรวดร้าวอย่างเดียว อูยยยย ขนาดซิบเฉี่ยวหนังกุเจี๊ยว
ยังเจ็บจนดิ้นพรากๆ ถ้าขนาดในภาพมันจะปวดขนาดไหนวะ
■
แต่ครูดั๊นไปยัดเยียดให้หลาน จขกท เป็นพวกหมกมุ่นในกามารมณ์ซะงั้น
กรูว่า เผลอๆ ครูต่างหากล่ะที่เป็นคนหมกมุ่นในกามารณ์ซะเอง
■
■
อีครูคนนี้มันไม่ได้เรื่อง ขาด EQ อย่างแรง เด็กมันทำตามคำสั่งครูเด๊ะๆ
ถ้าจะมีปัญหาก็เป็นเพราะครูดันตั้งโจทย์ไม่รัดกุมเองนั่นแหละ หลาน ของ จขกท ไม่ผิด
ถือว่าหาภาพมาส่งเป็นการบ้านได้อย่างสร้างสรรค์โคตรๆด้วยซ้ำ
■
คนที่เห็นด้วยกับครูก็แย้งว่ากะอีแค่ครูกลัวเด็กจะหมกมุ่นในกามนี่มันทำให้ครูคนนั้นกลายเป็นพวกหมกมุ่นซะเองเลยเรอะ
ถึงภาพๆนี้มันจะดูตลกหรือไม่ส่อไปในทางกามารณ์ในสายตาของพวกเอ็ง
แต่การที่เด็กเอาภาพของกุเจี๊ยวกุจิ๋มมาส่งเป็นการบ้าน มันเป็นเรื่องที่ไม่เหมาะสมนะ
ภาพอื่นมีตั้งเยอะตั้งแยะ ทำไมต้องเลือกภาพอวัยวะเพศมาส่งครูด้วยล่ะฟะ
■
■
ชาวพันทิปก็ถามกลับว่าเด็กมันเลือกภาพนี้มาส่งครูแล้วจะทำไมวะ
หรือมึงเห็นภาพซิปหนีบไข่แล้วเกิดเสี้ยนขึ้นมา ถึงได้เข้าใจว่าเด็กมันหมกมุ่นในกามารมณ์
เพศที่ไม่มีไข่อย่างพวกเอ็งน่ะ ไม่เข้าใจหรอกว่าการถูกซิปหนีบไข่มันเจ็บปวดรวดร้าวแสนสาหัสขนาดไหน
■
อมยิ้มคนนึงกล่าวว่าไอ้ภาพนี้มันก็เจ็บปวดรวดร้าวแสนสาหัสจริงๆนั่นล่ะ แต่ความเจ็บปวดนั้น
นอกจากความเจ็บปวดทางกาย ยังมีความเจ็บปวดทางใจ ที่สามารถใช้ภาพอื่นๆมาสื่อสารในแง่ศิลปะด้วย
การเรียกผู้ปกครองเด็กมาคุยโดยหาว่าเด็กหมกมุ่น มันก็มากเกินไป เด็กมันก็คึกคะนองไปตามวัยนั่นแหละ
แต่พ่อแม่ผู้ปกครอง ก็ควรตักเตือนลูกหลานด้วยเหมือนกันว่าอะไรควรอะไรไม่ควรนะ
■
อมยิ้มคนนึงบอกกับ จขกท ว่าหลานเอ็งไม่ผิดนะที่เอารูปนี้มาส่งครู แต่ถามหน่อยว่า
สังคมไทยสมัยนี้มันเปิดกว้างถึงขั้นเห็นอวัยวะเพศเป็นเรื่องธรรมดา
แล้วสามารถเอาภาพอวัยวะเพศมาโชว์ชาวบ้านได้เป็นเรื่องปรกติไปแล้วเรอะ
อย่างที่บอกไปข้างต้นว่าหลานของ จขกท ไม่ผิด แต่สิ่งที่เขาทำนั้นมัน ไม่ควร
เรื่องนี้มันเป็นเรื่องละเอียดอ่อน อย่าลืมว่าคนรุ่นเก่าๆจำนวนไม่น้อยยังรับเรื่องนี้ไม่ได้
ดังนั้นถ้าจะส่งภาพกุเจี๊ยวให้เพื่อน ทำได้ แต่ส่งให้ครูเป็นการบ้าน มันไม่สมควรอย่างยิ่งคร่ะ
■
รูปซิปหนีบไข่มันก็เจ็บปวดรวดร้าวอยู่ แต่ไอ้พวกที่ตำหนิครูในกระทู้นี้มันน่าเจ็บปวดยิ่งกว่า
คนไทยสมัยนี้เขามองว่าการเล่นแผลงๆคึกคะนองของเด็กกลายเป็นเรื่องปรกติไปแล้วเรอะ
ยุคกรูนะ ถ้าเอารูปพรรค์นี้ส่งครูเป็นการบ้าน รับรองว่าโดนครูฟาดจนก้นลายเลย
ไม่ต้องรอเรียกผู้ปกครองมาตำหนิหรอกว่ะ แต่สมัยนี้สังคมไทยกลับมองว่ามันเป็นเรื่องธรรมดาไปซะละ
คงเป็นเพราะรัเบียบวินัยของสังคมมันหย่อนยานลงทุกวัน วันนี้พวกมึงมองว่าการส่งรูปกุเจี๊ยวให้ครูเป็นเรื่องปรกติ
วันหน้ามึงคงมองว่าการส่งรูปคนถูกข่มขืนหรือถูกฆาตกรรมให้ครูเป็นเรื่องปรกติธรรมดาเหมือนกันล่ะมั้ง
■
ฝั่งที่เข้าข้างเด็กก็แย้งว่าซิปหนีบไข่ กับการข่มขืนหรือฆาตกรรมแม่งคนละเรื่องกันเลย
มึงเอาไปเปรียบเทียบกันได้ไงวะ ตรรกะวิบัติสัสๆเลยนะมึงเนี่ย ประเด็นของดราม่านี้มันอยู่ที่ว่า
ครูให้โจทย์มากว้างมาก ความเจ็บปวดก็มีสารพัดล้านแปด ซึ่งการถูกซิปหนีบไข่
ก็ถือเป็นความเจ็บปวดโคตรๆเจ็บปวดสุดๆประการนึง ถ้าหลาน จขกท เคยถูกซิปหนีบไข่
และคิดว่ามันทรมานที่สุด จึงส่งภาพนี้เป็นการบ้าน หลาน จขกท เขาทำผิดตรงไหนวะ
แต่ครูและอมยิ้มบางคนกับตราหน้าเด็กว่าหมกมุ่นในกามารมณ์ กรูว่าเผลอๆเด็กวัยนี้
มันยังไม่รู้ด้วยซ้ำว่าการเย็ดกันคืออะไร มีแต่ผู้ใหญ่นั่นแหละที่คิดเองเออเองแล้วยัดเยียดให้เด็กมันเป็นพวกหมกมุ่น
■
ฝั่งที่เข้าข้างครูก็ท้าทายคนที่เข้าข้างเด็กว่า แน่จริงมึงลองไปทำตัวกวนตีนแบบนี้กับเจ้านายมึงดูนะ
อยากรู้นักว่าถ้ามึงส่งภาพแผลงๆให้เจ้านายมึง เขาจะชมมึงว่ามีความคิดสร้างสรรค์มั้ย
มึงต้องแยกแยะระหว่างเรื่องเรียนกับเรื่องเล่นให้ได้สิวะ ไม่ใช่เอะอะก็ให้ท้ายเด็กยันเต
ก็เพราะผู้ใหญ่ให้ท้ายเด็กกันมั่วซั่วแบบนี้ไงถึงได้มีกระทู้บ่นเรื่องเด็กเปรตเด็กนรกกันไม่หยุดหย่อน
การที่ครูเขาตำหนิหลาน จขกท ก็ถูกแล้ว และครูเขาก็ไม่ได้คิดเองเออเองแทนเด็ก
แต่เขากำลังชี้นำเด็กที่ยังมีประสบการณ์ไม่มากพอให้รู้ระเบียบของสังคมเว้ย
■
การที่พ่อแม่ส่งลูกเข้าโรงเรียน ก็เพื่อให้เรียนรู้ทั้งวิชาการและกรอบของสังคมใช่มะ
ถ้ามึงอยากให้เด็กออกนอกกรอบนัก มึงก็ไม่ต้องส่งหลานเข้าโรงเรียนสิวะ โฮมสกูลไปเล้ยยยยย
จะได้เรียนกับพวกผู้ใหญ่รั่วๆที่แยกแยะเรื่องเรียนเรื่องเล่นไม่ออก เด็กมันจะได้รั่วตาม
แหม ทำเป็นเถียงกรูบอกว่าภาพข่มขืน ฆาตกรรม มันเทียบกับภาพซิปหนีบไข่ไม่ได้
มันก็กลุ่มเดียวกันนั่นล่ะวะ คือเป็นภาพที่ไม่เหมาะสมจะส่งครูเป็นการบ้านเหมือนกัน
โตๆกันแล้วนะมึง หัดทำตัวให้เป็นผู้ใหญ่กันหน่อย แล้วช่วยสั่งสอนเด็กให้มันรู้จักกาละเทศะกันบ้าง
■
ถ้ามึงไม่สั่งสอนเด็กให้รู้จักกาละเทศะ ให้อิสระเสรีภาพกับพวกมันโดยไม่มีกฏเกณฑ์ใดๆคอยควบคุม
คอยดูเหอะ พอไอ้เด็ก Gen-Y ที่ไม่สนใจเรื่องมารยาทกาละเทศะ กลายเป็นอนาคตของชาติเมื่อไหร่
ผู้ใหญ่ที่ให้ท้ายเด็กโดยไม่ดูตาม้าตาเรืออย่างพวกมึงจะสำนึกเสียใจก็สายเกินไปแล้วว้อย
■
ฝั่งที่เข้าข้างเด็กตอบว่า เด็ก Gen-Y ในวันหน้าจะเป็นไงกรูก็ไม่รู้หรอกนะ
แต่ไอ้สังคมไทยทุกวันนี้ ที่ผู้ใหญ่คลั่งกาลเทศะคลั่งมารยาททุกกระเบียดนิ้วอย่างพวกมึงสร้างขึ้นมา
มันดีตรงไหนมิทราบวะ กรูไม่เห็นว่ามันจะเป็นยูโทเปียที่สงบสันติเลยซักนิด
กรูเห็นแต่ผู้ใหญ่คดโกง เห็นแก่ตัว คอรัปชั่น ขัดแข้งขัดขา แบ่งแยกฝักฝ่ายเล่นกีฬาสีกันตลอดเวลา
การที่ประเทศชาติจะฉิบหายอยู่รอมร่อทุกวันนี้ กรูมั่นใจว่าไม่ใช่ฝีมือของเด็ก Gen-Y อย่างแน่นอน
■
แต่เป็นฝีมือของไอ้พวก Gen-X หรือรุ่นก่อนหน้านั้นที่เซ็นเซอร์หัวนมโกคูในช่องเก้าการ์ตูน
เพราะกลัวว่าเด็กเห็นหัวนมโกคูแล้วจะหมกมุ่น ไปชักว่าวรีดน้ำปริ๊ดๆด้วยความกำหนัดต่างหาก
กรูว่าครูในกระทู้นี้ มันก็ไม่ต่างจากพวกที่เซ็นเซอร์หัวนมโกคูซักเท่าไหร่หรอกว่ะ
■
■■
อมยิ้มคนนึงก็สั่งสอนคนที่เข้าข้างเด็กว่า พวกมึงจะอยู่บนโลกใบนี้ได้
มันต้องเรียนรู้ศิลปะในการอยู่ร่วมกันเอาไว้บ้าง กาละเทศะก็เช่นกัน
ถ้าเด็กนักเรียนอยากให้ครูชม ให้คะแนนดีๆ ได้เกรดสวยๆ มึงก็ควรศึกษาไว้บ้าง
ว่าผู้ใหญ่เขาชอบแบบไหน ไม่ชอบแบบไหน ถ้าหลาน จขกท ไม่แคร์เกรด
มึงอยากส่งภาพแบบไหนก็ส่งไปเหอะ แต่ จขกท ก็ควรสั่งสอนหลานไว้บ้าง
ว่าสังคมมนุษย์มันก็เป็นแบบนี้ และเราจะทำให้ผู้ใหญ่ที่มีอำนาจมากกว่าพึงพอใจได้ยังไง
■
ชาวพันทิปก็สงสัยว่า เกรดหรือคะแนนของเด็ก มันได้มาเพราะความพึงพอใจของครูเหรอวะ
■
กรูว่าไม่ใช่นะเว้ย เกรดมันต้องสะท้อนคำตอบของเด็กตามความเป็นจริงดิวะ
ถ้าเด็กตอบถูกก็แปลว่ามันถูก ไม่ใช่เด็กตอบถูกแต่ผู้ใหญ่ไม่ถูกใจ จึงกลายเป็นผิด
แบบนั้นมันไม่ใช่ ยิ่งมึงสอนเด็กแบบนี้ยิ่งแย่ เพราะเท่ากับว่ามึงสอนให้เด็กยึดติดกับอารมณ์
ยึดติดกับอคติอย่างความชอบความชัง มากกว่าการตัดสินด้วยเหตุผล
■
คนที่เข้าข้างครูตอบว่า เสียใจด้วยว่ะ ความเป็นจริงมันเป็นแบบนั้น
ถ้ามึงไปขัดคอผู้ใหญ่โดยอ้างความถูกต้อง เหตุผล หลักการอะไรนั่น
แต่ถ้าผู้ใหญ่เขาไม่ชอบขี้หน้ามึงก็เปล่าประโยชน์ สังคมไทยทุกวันนี้เป็นเช่นนี้
ดังนั้น จขกท ก็ควรสอนหลานให้เข้าใจและก้มหน้าก้มตาอดทนกับมันไปซะ
■
ชาวพันทิปก็ร้องเสียงหลง ถามไอ้พวกนี้ว่าสิ่งที่พวกมึงพูดมา มันเป็นศิลปะในการอยู่ร่วมกันในสังคมตรงไหนวะ
ไม่ใช่แล้ว นี่มันศิลปะในการประจบสอพลอ เลียแข้งเลียขาผู้หลักผู้ใหญ่มากกว่า การปลูกฝังเรื่องระเบียบ
มารยาท กาละเทศะให้กับเด็กไม่ใช่เรื่องผิด แต่ถ้ามึงสอนให้เด็กประจบสอพลอผู้ใหญ่ แบบนั้นฉิบหายกันหมดแน่
เพราะเด็กมันจะไม่สามารถทำอย่างที่ใจต้องการได้เลย เพราะต้องมาคอยกังวลตลอดเวลาว่า
ทำลงไปแล้วจะถูกผู้หลักผู้ใหญ่เขม่นหรือไม่ จะโดนด่าว่าข้ามหน้าข้ามตาเจ้านายหรือเปล่า
ถ้าเราสร้างเด็กที่มีความคิดแบบนี้ฝังหัวขึ้นมา แล้วอีกกี่สิบชาติเราถึงจะไล่ประเทศเพื่อนบ้านทันว๊ะ
■
ฝั่งที่เข้าข้างครูก็สวนกลับว่ามึงมันไม่รู้อะไรซะแล้ว สิ่งนี้มันไม่ใช่การประจบสอพลอ
แต่เป็นการเอาตัวรอดว้อยยยย ถ้ามึงอยากใช้ชีวิตในสังคมโดยไม่เดือดร้อน
มึงต้องอ่านสถานการณ์ อ่านใจผู้หลักผู้ใหญ่ให้ออก ถึงจะเอาตัวรอดได้
ต่อให้มึงมีความคิดที่ดี มีทัศนคติที่ถูกต้อง แต่ก็ใช่ว่ามึงจะอยู่รอดในสังคมได้เสมอไป
■
หรือถ้ามึงเจอคนที่ไม่เห็นด้วยแล้วเอาเหตุผลไปเถียงกับมัน มึงคิดว่ามันจะยอมฟังมึงหรือ
ถ้าฝั่งนั้นเป็นผู้หลักผู้ใหญ่ที่มีอำนาจชี้เป็นชี้ตายมึงได้ สุดท้ายถ้ามึงยึดติดกับความถูกต้อง
ยึดติดกับเหตุผลมากเกินไป เหตุผลนั้นแหละจะกลับมาทำร้ายมึงจนหมดสิ้นอนาคตซะเอง
เชื่อกรู บางครั้งมึงต้องยอมทนอยู่ใต้ตีนผู้ใหญ่ ยอมโอนอ่อนผ่อนตามไปก่อน
รอให้วันนึงผู้ใหญ่มันตายโหงตายห่าให้หมด วันนั้นแหละถึงจะเป็นทีของพวกเราบ้าง
■
หลังจากนั้นชาวพันทิปก็เถียงกันรัวๆว่า ถ้าเราเป็นหลานของ จขกท
และได้รับการบ้านโจทย์นี้จากครู เราจะส่งภาพซิปหนีบไข่ตามที่ใจเราต้องการ
หรือจะส่งภาพอื่นที่ถูกกาละเทศะ ถูกระเบียบแบบแผนให้ครูเป็นการบ้านแทนกันแน่
อาห์ แล้วดราม่านี้จะลงเอยเช่นไร? ใครเกิดมาชาตินี้ไม่เคยโดนซิปหนีบไข่บ้าง!?
พวกเธอว์จงตามไปเสพในกระทู้นี้โดยพลัน!
http://pantip.com/…/33536403
|