■
เรื่องมันมีอยู่ว่าที่เพจร้านหมูกะทะแห่งนึงซึ่งเขาให้บริการแบบบุฟเฟ่ต์
เขาโพสประจานลูกค้าคู่นึงที่นั่งแดกอาหารตั้งแต่ก่อนเที่ยงยันหกโมงเย็น
แดกไม่หยุด แดกตลอด แดกไอติมกรูหมดเป็นกล่องๆ (ปอบเหรอวะ)
แค่นั้นไม่พอ พอแดกไปสองชั่วโมงจนอิ่ม พี่แกผลัดกันไปเดินย่อยอาหาร
อีกคนนั่งเฝ้าโต๊ะ แล้วพออีกคนกลับมาก็ผลัดกันไปเดินย่อยอาหาร ทำธุระ แล้วกลับมาแดกต่อ
วนไปวนมาอยู่อย่างนี้จนครบ 6 ชั่วโมง บุฟเฟ่กรูราคาแค่หัวละ 129 บาท แต่ตูใช้วัตถุดิบระดับพรีเมี่ยม
มึงเล่นแดกกันแบบนี้แล้วกรูจะหากำไรที่ไหนมาจ่ายค่าจ้างลูกน้องว๊ะะะะะะะะะ
ดังนั้นจากนี้เป็นต้นไป ทางร้านจะจำกัดเวลาแดกบุฟเอาไว้ที่โต๊ะละไม่เกินสองชั่วโมงเท่านั้น
■
ชาวเน็ทก็แสดงความเห็นด่านักแดกบุฟสองคนนั้นกันใหญ่ว่าไร้มารยาทไร้จิตสำนึก บลาๆ
ทีนี้มันเริ่มดราม่าเมื่อมีชาวเน็ทคนนึงชื่อ ยุทธพงศ์ ทักว่า
ถ้าเจ้าของร้านไม่ได้ระบุเงื่อนไขเวลาไว้ตั้งแต่แรก จะไปด่าลูกค้าก็ไม่ถูกนะเออ
■
เจ้าของร้านถามกลับว่าแล้วการกินอาหารมื้อนึงหกชั่วโมงนี่มันถูกแล้วเรอะ
■
ยุทธพงศ์ตอบว่า มันก็ไม่ผิดกฏอยู่ดีนี่หว่า ถ้าอาหารบุฟเฟ่ต์ร้านนี้ใช้ของคุณภาพดี
ต้นทุนสูงแบบโคตรพรีเมี่ยม เมิงก็กำหนดเวลาไว้ดิว่าให้กินบุฟกี่ชั่วโมง
ถ้าเป็นกรูเจอร้านบุฟพรีเมี่ยมที่ไมจำกัดชั่วโมง กรูก็คงไปแดกแบบกะกินกันให้ตายไปข้างเหมือนกันนั่นแหละ
■
ฝั่งที่เห็นใจเจ้าของร้านบอกว่ามันไม่ผิดกฏก็จริง แต่มันเสียมารยาทนะเว้ย
■
ยุทธพงศ์ถามกลับว่ามันเสียมารยาทตรงไหนวะ มันเป็นสิทธิของลูกค้านะ
ทางร้านต่างหากที่ต้องตั้งกฏให้ดีเพื่อป้องกันลูกค้าจำพวกนี้เอาไว้
■
ทีมเจ้าของร้านตอบว่าแม่งผลัดกันแดก ผลัดกันไปเดินย่อยอาหารแบบนั้นยังไม่เสียมารยาทอีกเหรอวะ
■
หน้าด้านเหี้ยๆ จริงอยู่ที่ไม่มีกฏระบุไว้ตรงนี้ แต่การที่เมิงใช้ช่องว่างของกฏทำตัวทุเรศๆแบบนี้นั่นแหละที่เรียกว่าไร้มารยาท
มึงจะทำอะไรก็ควรจะมีสามัญสำนึกของความเป็นคนบ้าง ไม่ใช่เอาเปรียบผู้ประกอบการกันขี้เยี่ยวราดขนาดนี้
■
■
มีคนบอกว่า มันไม่ต้องตั้งกฏอะไรเพิ่มเติมหรอกว่ะ ขอแค่อีนักแดกสองคนนั้นมันมีจิตสำนึกก็พอแล้ว
■
ยุทธพงศ์ก็แย้งว่าถ้ามึงจะไปบังคับให้ทุกคนมีจิตสำนึก เห็นอกเห็นใจผู้อื่นทุกคนไม่ได้
มันถึงต้องมีกฏเกณฑ์ไว้บังคับให้มันปฎิบัติตามไง กรูเข้าใจประเด็นของพวกเมิงนะ
ที่ว่าไอ้นักแดกสองคนนั้นแม่งเห้มาก แต่โลกเราก็เป็นแบบนี้แหละ
มันไม่ได้มีแต่คนดี มีจิตสำนึกอยู่ในสังคมแค่พวกเดียวหรอก
คิดสิว่าถ้าทุกคนในสังคมมีจิตสำนึก เห็นอกเห็นใจผู้อื่นกันทุกคน มันจะวุ่นวายยุ่งเหยิงอย่างทุกวันนี้เหรอวะ
■
■
ปรากฏว่าคนด่ายุทธพงศ์กันขรมเลยครัชว่าความคิดมึงป่วยสัส ลองให้เป็นธุรกิจของมึงดูบ้างมั้ย
มึงจะได้เข้าใจว่าจิตสำนึกที่ไม่คิดเอาเปรียบคนอื่นจากช่องโหว่ของกฏมันสำคัญขนาดไหน
■
บ้างก็บ่นว่าอีนักแดกสองคนนั้นแม่งสันดานขนาดนี้ยังมีคนเข้าข้างมันได้ยังไงกันว๊ะ
■
ยุทธพงศ์ก็บ่นว่ากรูเข้าข้างอีนักแดกสองคนนั้นตรงไหนวะเฮ้ย
■
คนที่เห็นด้วยกับยุทธพงศ์ก็บอกว่ากรูเห็นด้วยกับความคิดไอ้หมอนี่ว่ะ
จริงอยู่ที่อีสองคนนั้นแม่งแดกล้างแดกผลาญมาก แต่เจ้าของร้านไม่ได้ตั้งกฏไว้เองนี่หว่า
ดังนั้นถ้าไม่มีกฏห้ามไว้ ลูกค้ามันก็ไม่ผิด จะไปว่ามันไม่ได้ ต้องโทษตัวเราที่สะเพร่าเอง
■
ฝั่งทีมเจ้าของร้านก็เถียงว่าร้านหมูกะทะส่วนมากมันก็ไม่จำกัดเวลาอยู่แล้ว
ถ้าให้เจ้าของร้านเขาตั้งเวลาจำกัด แล้วจะเอาอะไรไปแข่งขันกับร้านอื่นที่ไม่จำกัดเวลาวะ
มันไม่ใช่ว่าไม่มีกฏห้ามแล้วจะทำอะไรก็ได้นะ ไม่งั้นกรูสามารถไปเต้นจ้ำบ๊ะร้องรำทำเพลง
ในเอ็มเคสุกี้ก็ได้ใช่ป่ะ เพราะไม่มีกฏห้ามไม่ให้กรูเต้นจ้ำบ๊ะในเอ็มเคเหมือนกัน
■
ร้านหมูกะทะเขาอุตส่าห์เอาวัตถุดิบดีๆมาขายให้เราแดกเพื่อเอาใจลูกค้า
ถึงเราจะกินเยอะหน่อยเจ้าของร้านก็คงไม่ว่า แต่ถ้าแดกกันเหมือนปอบลง
แดกกันหกชั่วโมง มีสับเปลี่ยนหมุนเวียนกันไปเดินย่อยอาหารแบบนี้
ร้านไหนๆมันก็อยู่ไม่ได้เว้ย คนเป็นลูกค้ามันก็ควรจะคำนึงถึงเจ้าของร้านบ้างซักนิดสิวะ
■
ฝั่งที่ไม่เห็นด้วยบอกว่า ถึงอีนักแดกสองคนนั้นจะทำไม่เหมาะสมก็จริง
แต่มันใช่เรื่องที่เจ้าของร้านจะต้องเอามาประจานลงเฟซแบบนี้เหรอวะ
มึงแค่แจ้งว่าจะจำกัดเวลาการแดกบุฟ หรือเพิ่มเงื่อนไขอะไรก็ว่าไป
เพื่อปรับปรุงให้การให้บริการของมึงมีช่องโหว่ให้น้อยที่สุดเท่านั้นก็พอแล้ว
■
จริงๆแล้วเมิงเปิดร้านอาหารบุฟเฟ่ แล้วเจอลูกค้าที่ทำอะไรนอกเหนือการควบคุมของมึง
แค่สองคน ก็ลนลานออกมาตั้งสเตตัสประจาน เรียกร้องความสนใจแบบนี้ กรูว่าไม่ไหวว่ะ
เรื่องแค่นี้ยังรับมือไม่ได้ กะอีแค่ลูกค้าสองคนยังแก้ปัญหาไม่เป็น แล้วมึงจะบริหารร้านไปรอดจริงๆเหรอวะ
■
ส่วนยุทธพงศ์ก็ถามชาวเน็ทว่า เอาจริงๆนะเว้ย พวกมึงคิดว่าไอ้นักแดก
แบบสองคนที่เจ้าของร้านยกตัวอย่างมา มันมีตัวตนอยู่จริงๆเหรอวะ
ใครที่ไหนมันจะทำตัวได้เหี้ยไร้กาละเทศะซะขนาดนั้นวะ
■
เจ้าขอวร้านตอบว่า กรูก็เพิ่งเคยเจอคนจำพวกนี้เป็นหนแรกเหมือนกันว่ะ
จากนั้นเจ้าของร้านก็ร่ายยาวถึงวีรกรรมของนักแดกสองคนนั้น
ก่อนจะบ่นปิดท้ายว่า กำไรจากหมูกะทะกรูก็ไม่ได้ ยังโดนแดกไอติมจนหมดกล่องอีกเหรอวะ
■
ชาวเน็ทคนนึงก็ตำหนิ จขกท ว่ามึงมี service mind บ้างมั้ยวะเนี่ย
เอ็งเจอลูกค้าแดกล้างแดกผลาญ ก็เลยเอาเขามาประจานลงเน็ทเนี่ยนะ
เพื่ออะไรวะ เพื่อให้คนเห็นอกเห็นใจมึง เพื่อให้คนรุมประณามอีนักแดกสองคนนั้นรึไง
เฮ้ย มึงตั้งสติหน่อย มึงทำธุรกิจอยู่นะเว้ย มึงเจอความผิดพลาด มึงก็ต้องเรียนรู้จากมัน
และหาวิธีแก้เกมลูกค้าต่อไปเรื่อยๆ ไม่ใช่เอาเขามาประจานแบบนี้ มันผิดจริยธรรมของผู้ประกอบการนะมึง
นี่กรูเตือนในฐานะผู้ประกอบการด้วยกันนะ โลกของธุรกิจมันโหดร้ายกว่าที่มึงคิดเยอะ
มึงจะคาดหวังให้ทุกคนทำดีกับมึงไม่ได้ นอกจากลูกค้าเหี้ยๆแล้ว มึงอาจเจอคู่แข่งเหี้ยๆ
ที่ส่งคนมาบ่อนทำลายร้านมึง แจ้งสาธารณสุข หรือสรรพากรให้มาตรวจสอบร้านมึงถ้ามึงขายดีก็ได้
นี่เจอลูกค้าแย่ๆแค่สองคนมึงก็เป๋ซะแล้ว ถ้าเจอสิ่งที่กรูว่ามามึงจะไปรอดเหรอวะ
■■
ชาวเน็ทที่เห็นด้วยกับความเห็นนี้ก็บอกว่า จริงว่ะ ร้านไหนๆก็เจอปัญหานี้ทั้งนั้นแหละ
■
ไอ้นักแดกมันไม่มีมารยาทก็ใช่ แต่มึงไม่สามารถบังคับให้ทุกคนมีมารยาทได้หมดหรอก มันถึงต้องมีกฏไว้ไง
อย่างเช่น ร้านบุฟเฟ่ร้านไหนที่ไม่มีกฏว่าห้ามกินเหลือ ไม่งั้นจะโดนปรับ ลูกค้าเขาก็แดกทิ้งแดกขว้างตามประสา
พอร้านตั้งกฏไว้ ลูกค้าเขาก็กินให้หมด ไม่ตักเยอะจนแดกไม่หมด อะไรงี้
ดังนั้นการที่เจ้าของร้าน เจอลูกค้าที่ใช้ช่องโหว่ นั่งแดกกันครึ่งค่อนวัน
จึงเป็นสิ่งที่มึงไม่ควรโมโหลูกค้า เพราะช่องโหว่นี้มันเกิดขึ้นจากตัวของมึงเอง
■
■
■
ฝั่งที่เข้าข้างเจ้าของร้านก็บอกว่าของแบบนี้มันขึ้นอยู่กับมารยาทและจิตสำนึกเว้ย
ไอ้พวกที่ด่าเจ้าของร้านเนี่ย ลองให้มึงมาเปิดร้านอาหารแล้วมีคนผลัดกันแดกทั้งวันแต่จ่ายแค่ร้อยเดียวมั่งเอามั้ย
■
เรื่องแบบนี้มันขึ้นอยู่กับจิตสำนึกล้วนๆ มึงจะให้ร้านออกกฏทุกอย่างเลยมันเป็นไปไม่ได้
มันเป็นหน้าที่ของเจ้าของร้านเหรอที่ต้องมารับภาระความหน้าด้านไร้มารยาทของลูกค้าตัวแสบบางคน
ไอ้พวกที่เรียกร้องเหยงๆให้เจ้าของร้านเพิ่มกฏอ่ะ พวกมึงเกิดมาเป็นคนทั้งที
ก็ควรจะมีจิตสำนึกของความเป็นคนบ้าง ไม่ใช่คิดแต่ว่ากรูต้องแดกให้คุ้ม
คนอื่นจะเจ๊งบ๊งยังไงก็ช่างหัวมัน เสือกไม่ตั้งกฏห้ามพวกกรูเอาไว้เองนี่หว่า
■
คนเราจะใช้ชีวิตในสังคมร่วมกันได้มันต้องมีสามัญสำนึก การแดกล้างแดกผลาญแบบนี้
มันไม่เรียกว่าแดกแบบมีสามัญสำนึกแล้ว ถ้ามึงไม่มีสามัญสำนึกก็เชิญไสหัวไปอยู่ตัวคนเดียวเหอะ
อย่ามาเกลือกกลั้วในสังคมกับคนอื่นๆให้เป็นภาระของลูกหลานมึงเลย
■
ชาวเน็ทที่ไม่เห็นด้วยกับเจ้าของร้านก็ด่าความเห็นเหล่านี้ว่าพวกมึงนี่แม่งโลกสวยสัส
คิดว่าทุกคนบนโลกต้องมีมารยาทดีงาม มีสมบัติผู้ดีเหมือนพวกมึงหมดทุกคนเลยรึไง
เราไม่จำเป็นต้องมีกฏระเบียบเอาไว้ควบคุมคนเหี้ยๆเลยใช่มะ
■
ถ้ามึงเชื่อมั่นว่าทุกคนต้องเป็นคนดี มึงยกเลิกกฏหมายให้หมดไปเลยเด่ะ
แล้วไอ้พวกที่พูดถึงเรื่องจิตสำนึกดีๆในดราม่านี้ หวังว่าพวกมึงทุกคนจะมีจิตสำนึกที่ดี
ไม่โหลดแผ่นผีซีดีเถื่อน หรือดูหนังจากเว็บเถื่อนผิดกฏหมายเชียวนะมึง
■
คือแค่มารยาทกับจิตสำนึกมันไม่เพียงพอไง เพราะคนเราจิตสำนึกมันไม่เท่ากัน
เอาง่ายๆ อย่างในประเด็นนี้ยังมีคนมองว่าไอ้นักแดกสองคนนั้นผิดกับไม่ผิดเลย
ขนาดความเห็นคนเรายังต่างกัน แล้วมึงจะหวังให้ทุกคนมีจิตสำนึกเหมือนกันได้ไงวะ
ตั้งเป็นกฏเกณฑ์ให้ปฎิบัติตามแบบนี้แหละถูกต้องแล้ว แต่ที่มึงเอาลูกค้ามาประจานนี่กรูว่าไม่ถูกต้องว่ะ
■
หลังจากนั้นชาวเน็ทก็ดราม่ากันรัวๆว่า ร้านหมูกะทะควรจะตั้งกฏจำกัดเวลาในการแดกเอาไว้
หรือปล่อยให้มันเป็นไปตามจิตสำนึกอันดีงามของปวงชนชาวไทยกันแน่
อาห์ แล้วดราม่านี้จะลงเอยเช่นไร หากไม่ตั้งกฏห้ามกินเหลือ ห้ามกินเกินเวลาที่กำหนด
ถ้าผู้ประกอบการเจอ “ปอบสยาม” เหมือนนักแดกสองคนนี้ซักฝูง
แต่หวังว่าฝูงปอบจะมีจิตสำนึกและมารยาทอันดี อยากรู้จริงว่า จะเปิดร้านได้นานซักแค่ไหน
พวกเธอว์จงตามไปเสพในเพจนี้โดยพลัน
https://www.facebook.com/…/?…
|