บังคับขืนใจ หรือสมรู้สมยอม ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น มีแต่พวกเขาเท่านั้นที่รู้

เมื่อเข้าวัยที่เรียกได้ว่าเป็นผู้ใหญ่ การมีความสัมพันธ์เชิงรักใคร่กับคนที่เป็นผู้ใหญ่เหมือนกันนั้น อายุอาจไม่มีผลกับการการันตีสภาพความสัมพันธ์เท่าไรนัก บางคู่อายุห่างกันเกือบ 30 ปี แต่ก็ยังอยู่กันได้ แต่มันก็ไม่ได้สวยงามแบบนั้นไปทั้งหมด หากคู่ที่กำลังคบหาอยู่ด้วยนั้นอายุต่ำกว่า 18 ปี

เมื่อวันที่ 24 ธันวาคม หรือคริสต์มาสอีฟที่ผ่านมา มีหญิงอายุ 26 ปี ตกเป็นผู้ต้องหาในคดีลักพาตัวเด็กนักเรียน ม.ปลายชายวัย 16 ปี ในจังหวัดเฮียวโก แม้เธอจะยืนยันว่าเธอแค่ชักชวนให้เด็กหนุ่มมาเที่ยวที่ห้องของเธอเท่านั้น

ความสัมพันธ์ของทั้งสองไม่ได้เกิดขึ้นในคืนดังกล่าว หากแต่เกิดขึ้นมาได้ระยะหนึ่ง จนกระทั่งคุณแม่ของเด็กชายเป็นฝ่ายโร่แจ้งความกับตำรวจ และร้องเรียนกับทางโรงเรียนไปก่อนหน้านี้ในเดือนกันยายน โดยอ้างว่าเป็นฝ่ายหญิงที่พยายามติดต่อหาลูกชายของคุณแม่ให้ไปหาที่ห้องของเธออยู่หลายครั้ง ซึ่งฝ่ายลูกชายในตอนนั้นก็ยืนยันกับคุณแม่ว่าไม่ได้มีความสัมพันธ์เชิงชู้สาวอะไรเกิดขึ้นแม้แต่น้อย รวมถึงยังสัญญาว่าจะไม่ไปหา หากพ่อแม่ไม่อนุญาตอีกด้วย

แต่ทุกอย่างกลับตาลปัตร เมื่อวันหนึ่งเด็กชายเป็นฝ่ายบอกกับหญิงผู้ต้องหาว่าเขานั้นได้ตัดสัมพันธ์กับทางครอบครัวแล้ว และขอมาอยู่กับเธอที่ห้องตั้งแต่เย็นวันที่ 22 ธันวาคม ไปจนถึงตี 4 ของวันถัดมา และนั่นเป็นเหตุให้คุณแม่ต้องรีบแจ้งความ จนนำมาสู่การจับกุมในครั้งนี้

ผู้ต้องหาหญิงกล่าวว่า เธอนั้นให้เด็กหนุ่มเข้าบ้านมาเพราะเขาบอกว่าเขากำลังมีปัญหา ไม่มีการใช้กำลังบังคับขืนใจใด ๆ เกิดขึ้นแน่นอน ซึ่งเธอก็ได้รับการปล่อยตัวในวันถัดมา จากข้อมูลบนเว็บไซต์ Livedoor News ทำให้เราทราบว่าหญิงผู้ต้องหาคนดังกล่าวอายุ 26 ปี เป็นคุณแม่เลี้ยงเดี่ยวที่มีลูกสองคน ผู้ฝันอยากจะเข้าไปทำงานในอุตสาหกรรมบันเทิง

เมื่อชาวเน็ตญี่ปุ่นได้รับรู้ข่าวนี้ ก็มีความเห็นหลากหลาย เช่น

“มันเป็นเรื่องที่ต้องห้ามกันอยู่แล้ว นางไม่รู้เลยเหรอว่ามันจะเกิดอะไรตามมา”
“เหมือนเด็กผู้ชายกำลังวิ่งเข้าหาเซ็กส์ แต่ฝ่ายหญิงกำลังวิ่งหาความรัก”
“คิดว่าเป็นผู้หญิงแล้วจะปลอดภัย พรากผู้เยาว์ได้ไม่มีใครเดือดร้อนหรือ?”
“ทั้งคู่ต้องรู้จักหักห้ามใจให้มากกว่านี้นะ”
“ที่สำคัญคือเผ็ด เด็ด แซ่บมั้ย?”
“มันลักพาตัวตรงไหน?”
“ถ้าฝ่ายที่แก่กว่าเป็นผู้ชาย เชื่อเถอะว่าป่านนี้นอนคุกยาวไปแล้ว ไม่ได้ปล่อยตัววันเดียวหรอก”
“มีลูกแล้วก็น่าจะทำตัวเป็นแบบอย่างให้ลูกสิ”

แม้ในกรณีความผิดต่อผู้เยาว์อื่น ๆ จะสามารถพิสูจน์ข้อเท็จจริงได้ชัดเจนอย่างง่ายดาย แต่กับกรณีนี้ ยังมีข้อสงสัยเพราะไม่ปรากฎว่ามีการริดรอนเสรีภาพในเนื้อตัวร่างกาย หรือเรื่องเกี่ยวข้องกับทางเพศใด ๆ อย่างไรก็ดี มันก็บอกได้ว่าหากเป็นผู้ใหญ่แล้ว การวางตัวต่อคนที่อายุน้อยกว่าก็สำคัญไม่ใช่เล่น

Source: Kobe Shimbun, Livedoor News via SoraNews24

แม้ว่าหลายคนอาจจะเลือกที่จะนั่งดูคอนเสิร์ตขาวแดงรอเวลาขึ้นปีใหม่อยู่กับบ้านในวันสิ้นปี แต่การออกไปร่วมงานเคาท์ดาวน์ตามสถานที่ต่างๆ ในญี่ปุ่นเองนั้นก็ยังคงได้รับความนิยมไม่แพ้กัน และสำหรับที่ชิบูย่าแห่งนี้ก็มีงานสตรีทปาร์ตี้ที่ได้รับการสนับสนุนในการจัดจาก Coca-Cola มาตั้งแต่ปี 2016 ที่สามารถดึงดูดคนมาร่วมงานได้มากขึ้นในทุกปี โดยมีการแจกฟรีเป็นสินค้าและของที่ระลึกจากทาง Coca-Cola มากมาย และเป็นไปอย่างครื้นเครงสุดๆ จะเป็นไงกันบ้างตามไปดูกันเลย

渋谷カウントダウン撮影で2019年開幕。激ムズ。 External Link pic.twitter.com/4f5nMyDv4A

— 一柳 政志 (@187gm) December 31, 2018

渋谷駅、人の数が尋常ではないです、、、
身動きが取れない感じです。
自宅まで遠回りで歩きます。苦笑#渋谷 #渋谷カウントダウン #年越し pic.twitter.com/1bL30UPP0v

— ジュンノスケ＠仮想通貨投資・市場評論家 (@fujigayaJN) December 31, 2018

ในปีนี้ก็มีผู้คนมาร่วมงานกันแน่นขนัดชนิดที่ว่าอัดแน่นกันเต็มพื้นที่ย่านการค้าของชิบูย่า ชนิดที่ว่ามองไม่เห็นพื้นกันเลยทีเดียว โดยได้มีการปิดทางออกของสถานีชิบูย่าไปตั้งแต่เวลาห้าทุ่มของวันสิ้นปี และห้าง Tokyu เองก็ปิดไปตั้งแต่สี่ทุ่มแล้ว เรียกได้ว่าคนที่มาร่วมงานมีแต่ต้องอยู่กันบนถนนเท่านั้นจริงๆ แต่ในด้านความปลดภัยเองก็หายห่วง เพราะมีเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยมาเตรียมพร้อมรับมือกับสถานการณ์ไม่คาดคิดอยู่ก่อนแล้ว

渋谷カウントダウンの様子を視察に来てます。明らかに昨年より人が多く、外国人比率が高くなってます。8～9割ぐらい。警察がバリケードを作って一定以上の人数をスクランブル交差点方面に入れなかったので、中心部は混乱になりませんでしたが、バリケード付近では多し揉み合いがあったようです。 pic.twitter.com/Uz8dafgDTb

— 田中たくみ (@tanakatakumi15) December 31, 2018

渋谷カウントダウンにやってきたがすでに封鎖されていた。 pic.twitter.com/aNF5YDSGDa

— 安東洪児 (@andokj) December 31, 2018

แต่ก็ยังมีเหตุการณ์ไม่คาดคิดเกิดขึ้นได้บ้างอย่างพ่อหนุ่มที่ขึ้นไปปีนเสาไฟรายนี้

渋谷カウントダウン登っちゃダメでしょwwwwww pic.twitter.com/vpxpXjrhUc

— ナッツ (@cocovater) December 31, 2018

渋谷カウントダウン pic.twitter.com/ImUU9E9Ju9

— ロバ (@donkeys__ears) January 1, 2019

2018→2019渋谷カウントダウン！１０秒前！#渋谷　#カウントダウン　#ハッピーニューイヤー　#新年 pic.twitter.com/L92nDDG0Uo

— かたくなドミトリー【Youtuber】 (@katakuna_dorm) December 31, 2018

#あけましておめでとうございます #渋谷カウントダウン pic.twitter.com/0RaaGSDxtB

— 石原まい子 (@MAIKOmmm) December 31, 2018

View this post on Instagram

#渋谷カウントダウン #あけおめ

A post shared by @ init751 on Jan 1, 2019 at 8:49am PST

< THANK YOU 戌年2018 ！ >
クッパにさらわれたハチ公を助けに行くスペシャル映像のマッピング上映も！！！！！！#任天堂 #渋谷 #カウントダウン pic.twitter.com/vYGulIaHOE

— ヒノッチ (@hinopika) December 31, 2018

#渋谷カウントダウン pic.twitter.com/3G24X4x36y

— きむらさとる (@kimurasatoru) December 31, 2018

すごいことになってますね！皆様が安全に新年を迎えられますように！
あと1分！#渋谷カウントダウン pic.twitter.com/dTaRRIMzxR

— Tibtter (@TIb_tter) December 31, 2018

NHKまで煽ってるんかい#渋谷#カウントダウン#ゆく年くる年 pic.twitter.com/loUaishDFc

— あやぺ (@dermayako) December 31, 2018

よく見ると外国人が多いね。#渋谷カウントダウン #羽鳥モーニングSP pic.twitter.com/SqvLhd4ZZ3

— ひで (@hideaki_shiho) January 1, 2019

年越した時のスクランブル交差点だけど、ハロウィンより人多いなw でも見た感じそんなに暴動とかは起きてなさそう。#渋谷カウントダウン pic.twitter.com/2xPCJwAn1E

— アマング (@Among_every3907) December 31, 2018

Little Glee Monster
渋谷カウントダウン①#LittleGleeMonster #リトグリ#渋谷カウントダウン pic.twitter.com/UFFTwIaySE

— れおにいさん (@orewareo55) December 31, 2018

#渋谷カウントダウン
めちゃつかれたw pic.twitter.com/SJO7eQFwmR

— SoMA (@sankarea___) December 31, 2018

渋谷カウントダウンのおすそ分けを皆さまにも。笑 pic.twitter.com/grzZMpTAgc

— !يوريゆーり (@Yuuri0803) December 31, 2018

โดยยอดผู้เข้าชมงานเคาท์ดาวน์ที่ชิบูย่าในปี 2016 นั้นอยู่ที่ 67,000 คน และเพิ่มขึ้นเป็น 100,000 คนในปี 2017 และในปีนี้ก็ยังเพิ่มขึ้นอีกโดยเพิ่มไปถึง 120,000 คนในปีนี้เรียกได้ว่าในการจัดงานสามปีมีผู้เข้าชมเพิ่มขึ้นมาเกือบเท่าตัวเลยทีเดียว และคงจะยังเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ในปีต่อๆ ไป

Source: Nikkan Sports via Soranews24

สวัสดีผู้อ่านทุกท่าน วันนี้เราก็จะมาพูดคุยกับ AKIRA-KURØ ไอดอลวงใหม่ที่ได้มีการเปิดตัวด้วยการปิดหน้าปิดตาไม่ให้ใครเห็น แถมยังประกาศตนเป็นไอดอลใต้ดินอีกด้วย

ในช่วงนี้ก็ได้เริ่มมีการเปิดตัวเมมเบอร์และการเจอกันกับเหล่าแฟนคลับกันมากขึ้น และอีกไม่ช้า AKIRA-KURØ ก็จะเดบิวอย่างเต็มตัวในช่วงต้นปี 2019 เราจะขอพาทุกท่านมาพูดคุยกับคุณพล เจ้าของวงผู้ก่อตั้ง AKIRA-KURØ เกี่ยวกับความเป็นมาของไอดอลสุดแหวกแนววงนี้กันนะครับ

ชื่อของวง AKIRA-KURØ มีที่มาอย่างไร และอยากให้เล่าถึงแรงบันดาลในในการต่อตั้งวงว่า กว่าจะก่อตั้งวงได้ ต้องทำอะไรไปบ้าง

จริงๆแล้ว ผมเป็นคนมองความเป็นมนุษย์ของคนเราที่มีทั้งด้านที่สว่างและด้านที่เป็นสีดำ ชื่อวงของเราถ้าแปลกันตรง ๆ แล้วมันจะแปลว่า แสงสว่างสีดำ ครับ

แรงบันดาลใจคือ ผมเป็นคนชอบดนตรีสายหนักอย่างพวก Screamo และ Metal อยู่แล้ว เมื่อก่อนก็เคยทำวงใต้ดินมาก่อนครับชื่อวง Elizabeth Ashes และ วง Linderoth ครับผม บวกกับตัวผมเอง ชอบฟังวง IDOL สายหนักๆ มันจึงเป็นแรงบันดาลใจให้ผมทำ AKIRA-KURØ ขึ้นมา และอีกอย่าง ประเทศไทยเราก็ยังไม่มีวง IDOL สายนี้ มันจึงทำให้ผมก่อตั้งวงนี้ขึ้นมา

กว่าจะก่อตั้งวงได้นี่ต้องทำอะไรบ้าง ผมบอกได้เลยว่า มันเป็นเรื่องของใจและความชอบล้วน ๆ และต้องไม่มองเรื่องธุรกิจ เพราะทำวงนี้ผมก็ไม่ได้มองถึงเรื่องธุรกิจมาตั้งแต่แรกอยู่แล้ว

ทำไมถึงเรียกตัวเองว่าเป็น Underground Idol

เพราะ จริงๆเราก็จะเรียกตัวเราว่า จิกะไอดอล เนี่ยแหละครับ ฮ่า ๆๆๆๆ แต่ว่า ที่ใช้คำว่า Underground Idol จะได้เข้าใจง่ายดี สำหรับคนที่ไม่รู้จักไอดอลมาตั่งแต่แรก ๆ ถ้าไปใช้คำว่าจิกะไอดอล คนที่ไม่เคยตามไอดอลก็จะ งง ก็บอกกันไปตรง ๆ เลยว่าเราเป็น ไอดอลใต้ดิน นะ

AKIRA-KURØ มีจุดเด่น หรือความแตกต่างของวง กับไอดอลวงอื่นๆ ที่มีมาก่อนหน้านี้ อย่างไร

จุดเด่น ของวงก็น่าจะเป็นความเข้าถึงง่ายใกล้ชิดง่ายกว่า วงไอดอล ทั่ว ๆ ไปเนี่ยแหละครับ ฮ่าๆๆ

มีเกณฑ์ในการคัดตัวสมาชิกของวงแต่ละคนอย่างไรบ้าง

เราจะดูกันที่ทักษะด้านการร้อง และการเต้น ที่สำคัญเลยคาเร็คเตอร์ของแต่ละคนครับ

พูดถึงการเปิดตัวที่แหวกแนวสุด ๆ จากการปิดหน้าปิดตาก่อน ผลตอบรับที่ได้เป็นที่น่าพึงพอใจไหม

อันนี้ต้องบอกเลยว่า ผลตอบรับดีเกินคาดครับ จริง ๆ ผมไม่ได้หวังว่าผลตอบรับมันจะออกมาดีขนาดนี้ด้วยซ้ำครับ กลายเป็นว่าทุกวันนี้มีแต่คนอยากได้ผ้าปิดปากของวงไปซะงั้น ฮ่า ๆ และที่เปิดตัวแบบนี้เพราะอยากให้ค่อย ๆ รู้ตัวตนของน้อง ๆ ก่อน ก่อนที่จะมาเห็นหน้าและมาเจอกันแบบตัวเป็น ๆครับ

เมมเบอร์แต่ละคนมีความชอบคล้ายกันไหม งานอดิเรกเป็นอย่างไรบ้าง

ส่วนใหญ่ก็มีความชอบคล้ายๆกันครับหลาย ๆ คน โดยมากก็จะชอบเต้นกัน บางคนก็มีงานอดิเรกในการทำขนม เล่นเกมส์ บางครั้งระหว่าง Live ผู้คุยกับแฟ นๆ ก็มีแคสเกมส์โชว์กันเลยครับ

แนวทางเพลงของวงเป็นลักษณะไหน

แนวเพลงของวงเรา จะเป็น Alternative ครับผม ซึ่งที่ผมบอกว่า วงเราเป็น Alternative คืออยากจะตีภาพให้กว้าง ๆ ไว้ครับ เพราะ อย่างเพลง Single แรก ของวงเราก็จะออกไปทาง Poppunk อาจจะมีบางเพลงที่อาจจะหนักไปถึง Post-Hardcore หรือ Metalcore ไปเลยก็ได้ครับ เพราะเอาตรง ๆ ถ้าให้ผมไปทำเพลง POP ใส ๆ ผมทำไม่ได้ครับ ไม่ใช่ว่า POP มันไม่ดีนะครับ แต่มันไม่ได้อยู่ในสายเลือดมาตั้งแต่แรกอยู่แล้วครับ

ใช้เวลาในการฝึกซ้อมกันอย่างไร เจอกันบ่อยไหม

ส่วนใหญ่ก็จะซ้อมช่วงวันหยุด เสาร์ กับ อาทิตย์ ครับเพราะผมไม่อยากให้เวลาซ้อมไปเบียดเวลาเรียนของน้อง ๆ กันครับ ยังมีน้อง ๆ หลายคนเรียนอยู่ด้วยครับ แต่ถ้าช่วงที่จะมีแสดง ก็จะมีมาซ้อมกันในวันธรรมดาช่วงเย็นบ้างครับ

ช่องทางต่าง ๆ ที่แฟนคลับจะได้เจอกับเมมเบอร์มีทางไหนบ้าง

ก็จะมีทาง Live ครับ แต่ถ้าอยากเจอกันแบบตัวเป็น ๆ ต้องรอติดตามทางเพจของวงครับผม รับรองมีกิจกรรมแปลก ๆ มาให้แฟน ๆ ได้สัมผัสกันแน่นอน

มีกฏระเบียบต้องห้ามหรือไม่ เช่นห้ามมีแฟน

ก็กฎระเบียบก็จะเหมือน ๆ ไอดอลที่เป็นเมเจอร์ทั่ว ๆ ไปครับ แต่ก็จะไม่ได้ฟิกตายตัวขนาดนั้นครับ ก็จะมีบางข้อที่แตกต่างกันนิดๆ หน่อยๆ

จะมีการเปิดตัวอย่างเป็นทางการเมื่อไหร่ และแฟน ๆ จะได้เห็นอะไรบ้างในวันนั้น

ช่วงต้นปีครับผม ในเดือนมีนาคมครับ ส่วนสิ่งที่แฟน ๆ จะได้เห็น อันนี้ขออุ๊บไว้ก่อนนะครับ

เรื่องของ Merchandise ของวงนี้จะมีรูปแบบอย่างไร แฟน ๆ หลายท่านอยากทราบว่าจะมีโอกาสได้มีรูปคู่กับน้องๆ เมมเบอร์บ้างเหรือเปล่า

เรื่องสิ้นค้า ก็จะมีหลากหลายรูปแบบครับ ทั้งเสื้อวง PHOTOSET และ การ Shamekai

อยากให้เล่าถึงบรรยากาศการเปิดตัวและพบปะกับแฟน ๆ เป็นครั้งแรก ในวันที่ 28 พ.ย. ที่ผ่านมาหน่อย

คือพวกเราตื่นเต้นกันมาก ๆ ครับ ทั้งตัวผมเองและเมมเบอร์ทั้ง 14 คนเพราะมันเป็นเวทีแรกเลยครับ เราไม่คิดว่าฟีดแบคตอบรับจะออกมาดีมาก ๆ เลยครับ เราได้เห็นแฟน ๆ ทุกคนสนุกไปกับโชว์และกิจกรรมของวงเรา พวกเราก็รู้สึกดีใจมาก ๆ เลยล่ะครับ ทั้ง Member และทีมงาน AKIRA-KURØ ขอขอบคุณทางทีมผู้จัดงาน Climax team ขอบคุณ พี่ยอดโคตรอินดี้ พี่อารต์โคตรอินดี้ ที่ให้โอกาสพวกเรา AKIRA-KURØ ได้ขึ้นแสดงในงาน “khang khang can” party (ข้างๆแคน ปาร์ตี้) ครับผม

สุดท้ายนี้อยากให้ฝากอะไรถึงแฟน ๆ ที่ได้อ่านกันหน่อย

สุดท้ายก็อยากฝากวงพวกเราและน้อง ๆ ทุก ๆ คนด้วยนะครับผม น้อง ๆ ทุกคนตั้งใจทำกันมาก ๆครับ และก็สามารถติดตามน้องและข่าวสารของวงได้ทาง เพจ AKIRA-KURØ และเพจส่วนตัว และ อินสตาร์แกรมส่วนตัว ของน้อง ๆ แต่ละคนนะครับผม พวกเราจะพยามๆสร้างสรรค์ผลงานและพัฒนาโชว์ออกมาให้ดีขึ้นไปอีกในงานครั้งต่อๆไป ขอบคุณที่เป็นกำลังใจให้กัน

ว่าแล้วเราก็มาทำความรู้จักกับเหล่าเมมเบอร์ของ AKIRA KURØ กันดีกว่าว่ามีใครบ้าง

Name : Nacchii AKIRA KURØ
Birthday : 02.11.199X
Facebook: www.facebook.com/nacchiiakirakuroofficial
Instagram: www.instagram.com/nacchii_akirakuro

Name : Ren AKIRA KURØ
Birthday : 14.10.199X
Facebook: www.facebook.com/renakirakuroofficial
Instagram: www.instagram.com/ren_akirakuro

Name : Ploy AKIRA KURØ
Birthday : 28.11.199X
Facebook: www.facebook.com/ployakirakuroofficial
Instagram: www.instagram.com/ploy_akirakuro

Name : Goya AKIRA KURØ
Birthday : 07.04.199X
Facebook: www.facebook.com/goyaakirakuroofficial
Instagram: www.instagram.com/goya_akirakuro

Name : Feryn AKIRA KURØ
Birthday : 26.04.199X
Facebook: www.facebook.com/ferynakirakuroofficial
Instagram: www.instagram.com/feryn_akirakuro

Name : Poopae AKIRA KURØ
Birthday : 09.02.200X
Facebook: www.facebook.com/poopaeakirakuroofficial
Instagram: www.instagram.com/poopae_akirakuro

Name : Nana AKIRA KURØ
Birthday : 11.07.199X
Facebook: www.facebook.com/nanaakirakuroofficial
Instagram: www.instagram.com/nana_akirakuro

Name : Sugar AKIRA KURØ
Birthday : 22.10.199X
Facebook: www.facebook.com/sugarakirakuroofficial
Instagram: www.instagram.com/sugar_akirakuro

Name : FIN AKIRA KURØ
Birthday : 14.03.199X
Facebook: www.facebook.com/finakirakuroofficial
Instagram: www.instagram.com/fin_akirakuro

Name : Punch AKIRA KURØ
Birthday : 15.02.199X
Facebook: www.facebook.com/punchakirakuroofficial
Instagram: www.instagram.com/punch_akirakuro

Name : Keyboard AKIRA KURØ
Birthday : 02.10.200X
Facebook: www.facebook.com/keyboardakirakuroofficial
Instagram: www.instagram.com/keyboard_akirakuro

Name : IYM AKIRA KURØ
Birthday : 01.07.199X
Facebook: www.facebook.com/iymakirakuroofficial
Instagram: www.instagram.com/iym_akirakuro

Name : Ribbon AKIRA KURØ
Birthday : 16.03.199X
Facebook: www.facebook.com/ribbonakirakuroofficial
Instagram: www.instagram.com/ribbon_akirakuro

Name : Bambie AKIRA KURØ
Birthday : 30.11.199X
Facebook: www.facebook.com/bambieakirakuroofficial
Instagram: www.instagram.com/bambie_akirakuro

และก็ขอฝากงานวันที่ 26 มกราคม 2019 ด้วยนะครับ ชื่องาน ” WEIRD Vol.1 “ งานนี้จัดโดย HEAVY Organizer Proudly Presents สถานที่ AT De Commune (Liberty Plaza Building) Sukhumvit Soi 55(Thonglor)

LINE UP : ศิลปินในงาน KOKESHI DOLL (JAPAN) GEODE (JAPAN) LOWFAT (THAILAND) YENSUK (THAILAND) THE LAYERS (THAILAND) AKIRA-KURØ (THAILAND) ครับผม

งานนี้ FREE ENTRY แต่จะมีกล่องรับบริจาคอยู่หน้างาน (รายได้หลังหักค่าใช้จ่ายเราจะมอบให้เป็นกองทุน สร้างศูนย์การดูแลสุขภาพแบบองค์รวมขั้นพื้นฐาน) ครับผม

ขอขอบคุณทางวง AKIRA-KURØ  นะครับกับการให้สัมภาษณ์ครั้งนี้ จะรอดูวันที่ได้เดบิวอย่างเป็นทางการนะครับ

AKIRA-KURØ Official
Facebook: www.facebook.com/akirakuroofficial
Instagram: www.instagram.com/akirakuroofficial
Twitter : twitter.com/akirakuroidol
Email: akirakuroofficial6@gmail.com

จากการรายงานของสื่อญี่ปุ่นมีการรายงานออกมาว่านับตั้งแต่วันจันทร์ที่  7 มกราคมนี้เป็นต้นไปผู้ที่เดินทางออกนอกประเทศญี่ปุ่นจะต้องเสียภาษีขาออกเป็นเงิน 1,000 เยน หรือประมาณ 300 บาทเสียแล้ว

โดยญี่ปุ่นจะเริ่มเกมภาษีขาออกมูลค่า 1,000 เยนสำหรับทุกคนที่จะเดินทางออกจากประเทศญี่ปุ่นไม่ว่าจะทางเครื่องบินหรือทางเรือ โดยไม่มีการเกี่ยงสัญชาติแต่อย่างใด

ภายใต้กฎหมายที่มีการประกาศใช้ไปเมื่อเดือนเมษายนปีที่แล้วนั้น จะต้องมีการจัดเก็บเงินส่วนนี้ทุกครั้งที่เดินทางออกนอกประเทศ โดยที่ภาษีส่วนนี้จะถูกจัดเก็บตั้งแต่การซื้อตั๋ว โดยถูกนำไปคำนวณรวมกับค่าตั๋วไม่ว่าจะเป็นตั๋วเครื่องบินหรือ ตั๋วเรือ เช่นเดียวกับภาษีสนามบินที่ในปัจจุบันก็มีการเก็บอยู่ก่อนแล้ว

โดยทางรัฐบาลญี่ปุ่นได้มีแผนที่จะนำรายได้จากการเก็บภาษีส่วนนี้ มารองรับนักท่องเที่ยวต่างชาติให้ได้มากขึ้น, พัฒนาการท่องเที่ยวในจุดต่างๆ เพื่อเพิ่มความสะดวกให้กับนักท่องเที่ยว และปรับปรุงระบบการตรวจคนเข้าเมืองให้สะดวกและรวดเร็วยิ่งขึ้น เพื่อลดปัญหาการรอคิวนานของผู้โดยสารขาเข้า

โดยสำหรับผู้ที่ต้องทำการเปลี่ยนเครื่องภายใน 24 ชั่วโมงหลังจากเครื่องลงที่สนามบิน และเด็กที่มีอายุตั้งแต่สองขวบลงไปจะได้รับการยกเว้นการจัดเก็บภาษีในส่วนนี้

และสำหรับผู้ที่ได้ทำการซื้อตั๋วเดินทางไว้ก่อนวันที่ 7 มกราคมนั้นก็จะได้รับการยกเว้นการจัดเก็บภาษีในส่วนนี้เช่นเดียวกัน

จากคาดว่ารายได้จากการเก็บภาษีขาออกจะอยู่ที่ประมาณ 6 พันล้านเยนในปีงบประมาณ 2018 ที่จะสิ้นสุดในเดือนมีนาคม 2019 และพุ่งเป็น 5 หมื่นล้านเยนในปีงบประมาณ 2019

รายได้ส่วนนี้ได้มีการแจกแจงการนำไปใช้ในอนาคตไว้ดังนี้ การติดตั้งประตูระบบจดจำใบหน้าที่บริเวณจุดตรวจคนเข้าเมืองเพื่อเพิ่มความรวดเร็วในการทำงาน และจะยังมีการนำไปใช้ในการติดตั้งป้ายประชาสัมพันธ์หลายภาษา เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับนักท่องเที่ยวจากหลายประเทศ และนำไปช่วยในการนำเสนอระบบการจ่ายเงินแบบไม่ต้องใช้เงินสดในการใช้ระบบการขนส่งสาธารณะต่างๆ แก่นักท่องเที่ยว

โดยในปีที่ผ่านมานั้นจำนวนนักท่องเที่ยวที่มายังญี่ปุ่นมีจำนวนเพิ่มขึ้นสูงมากโดยในปี 2018 ที่ผ่านมามีจำนวนถึง 30 ล้านคนซึ่งถือได้ว่าสูงที่สุดในประวัติศาสตร์ของญี่ปุ่น

ทางรัฐบาลเองก็ได้มีการตั้งเป้าที่จะเพิ่มจำนวนนักท่องเที่ยวให้มากยิ่งขึ้นไปอีก โดยตั้งเป้าไว้ว่าจะมีนักท่องเที่ยวถึง 40 ล้านคนในปี 2020 ซึ่งเป็นปีที่จะมีการจัดการแข่งขันกีฬาโอลิมปิก และพาราลิมปิก ณ ประเทศญี่ปุ่น

Source: THE STRAITS TIMES

ผลงานมังงะชื่อดังของอาจารย์โอดะ เออิจิโร่ อย่าง One Piece ได้จับมือกับเว็บไซต์จัดหางาน Indeed เพื่อออกแคมเปญโฆษณาตัวใหม่ที่มาพร้อมกับสมาชิกของกลุ่มหมวกฟางในแบบใช้คนแสดงจริงๆ และสำหรับโทนี่ โทนี่ ช็อปเปอร์ คุณหมอประจำเรือก็ต้องมาเป็นกวางเรนเดียร์ตัวจริงเสียงจริงเช่นกัน จะเป็นยังไงก็ตามไปดูกันเลย

ในส่วนของนักแสดงที่มารับบทบาทของสมาชิกกลุ่มหมวกฝางแต่ละคนก็ได้แก่ Saitoh Takumi ในบทของลูฟี่, Ikeuchi Hiroyuki ในบทของโซโล, Izumi Rika ในบทของนามิ, Daigo จากคู่หูดาราตลก Chidori ในบทของ Usopp และ Kubozuka Yosuke ในบทของซันจิ แต่ก็คงไม่มีใครเด่นเท่าเจ้ากวางเรนเดียร์ที่มารับบทของโทนี่ โทนี่ ช็อปเปอร์

โฆษณาตัวนี้ได้เริ่มฉายตั้งแต่ช่วงวันสิ้นปีที่ผ่านมา และยังคงฉายอยู่เรื่อยๆ ในปัจจุบัน โดยในโฆษณาจะเป็นการโปรโมทเว็บไซต์ Indeed โดยเชิญชวนให้คนมาหางานในอาชีพที่อยากเป็น แล้วจึงชวนให้มาใช้บริการของ Indeed เพื่อหางานเหล่านั้นง่ายๆ ผ่านระบบออนไลน์พร้อมทั้งสมัครได้เลยทันที

Source: Comic Natalie via wowjapan

จบกันไปแล้วสำหรับปี 2018 ตอนนี้หลาย ๆ คนอาจจะเริ่มระลึกกันว่าอนิเมะเรื่องใดที่ดูในปีนี้แล้วประทับใจกันบ้าง โดยบรรณาธิการของสามนิตยสารอนิเมะชื่อดังของญี่ปุ่นได้แก่ Newtype, Animage และ Animedia ได้มีการจัด 10 อันดับอนิเมะยอดเยี่ยมประจำฤดูใบไม้ร่วงปี 2018 ออกมา เราไปดูกันเลยว่ามีเรื่องอะไรบ้าง

10 อันดับอนิเมะยอดเยี่ยมฤดูใบไม้ร่วงของคุณ Kawai Hisae บรรณาธิการของนิตยสาร Animage

อันดับที่ 1 Zombie Land Saga

อันดับที่ 2 SSSS.Gridman

อันดับที่ 3 JoJo’s Bizarre Adventure: Golden Wind

• อันดับที่ 4 Tsurune: Kazemai Koukou Kyudou-bu
• อันดับที่ 5 Golden Kamuy
• อันดับที่ 6 Sword Art Online: Alicization
• อันดับที่ 7 Tensei Shitara Slime Datta Ken
• อันดับที่ 8 Kaze ga Tsuyoku Fuiteiru
• อันดับที่ 9 Inazuma Eleven: Orion no Kokuin
• อันดับที่ 10 Dakaretai Otoko 1-i ni Odosarete Imasu

10 อันดับอนิเมะยอดเยี่ยมฤดูใบไม้ร่วงของคุณ Mabuchi Yu บรรณาธิการของนิตยสาร Animedia

อันดับที่ 1 JoJo’s Bizarre Adventure: Golden Wind

อันดับที่ 2 Sword Art Online: Alicization

อันดับที่ 3 Tsurune: Kazemai Koukou Kyudou-bu

• อันดับที่ 4 Dakaretai Otoko 1-i ni Odosarete Imasu
• อันดับที่ 5 Zombie Land Saga
• อันดับที่ 6 SSSS.Gridman
• อันดับที่ 7 Inazuma Eleven: Orion no Kokuin
• อันดับที่ 8 Tensei Shitara Slime Datta Ken
• อันดับที่ 9 Gakuen Basara
• อันดับที่ 10 Beelzebub-jō no Okinimesu Mama

10 อันดับอนิเมะยอดเยี่ยมฤดูใบไม้ร่วงของคุณ Kurose Shinya บรรณาธิการของนิตยสาร Newtype

อันดับที่ 1 Zombie Land Saga

อันดับที่ 2 SSSS.Gridman

อันดับที่ 3 Seishun Buta Yarou wa Bunny Girl-senpai no Yume wo Minai

• อันดับที่ 4 Sword Art Online: Alicization
• อันดับที่ 5 Yagate Kimi ni Naru
• อันดับที่ 6 Kaze ga Tsuyoku Fuiteiru
• อันดับที่ 7 Tensei Shitara Slime Datta Ken
• อันดับที่ 8 Anima Yell!
• อันดับที่ 9 Toaru Majutsu no Index III
• อันดับที่ 10 Gaikotsu Shotenin Honda-san
• อันดับที่ 11 Tsurune: Kazemai Koukou Kyudou-bu

Source : Nico Nico, Yara-on! via ANN

เรียกว่าเป็นการประกาศข่าวสำคัญแบบไม่ทันตั้งตัวและไม่มีใครคาดคิดจริง ๆ สำหรับอาจารย์ Isayama Hajime ผู้วาดมังงะสุดฮิตอย่าง Attack on Titan ที่เมื่อวันที่ 31 ธันวาคม 2018 เขาได้อัพเดทเรื่องราวส่วนตัวผ่านทางเว็บไซต์ Livedoor

โดยอาจารย์ได้เขียนถึงภาพยนตร์ที่เขาชอบในปี 2018 โดยมี Bohemian Rhapsody, Hereditary และ Avengers: Infinity ติดอันดับต้น ๆ และยังเตรียมรอชมภาพยนตร์และซีรีส์ในปี 2019 ได้แก่ Godzilla: King of the Monsters, Avengers: Endgame และ Game of Thrones ซีซั่นสุดท้าย

และสิ่งที่น่าทึ่งกว่าคืออาจารย์ในวัย 32 ปี ได้ประกาศว่าเขาได้แต่งงานเป็นที่เรียบร้อยแล้วในจังหวัดโออิตะ โดยเขาได้เขียนข้อความเอาไว้ว่า “อย่างไรก็ตาม ถ้าให้พูดถึงตัวผมในปีนี้ ตอนนี้ผมได้แต่งงานแล้ว จากนี้ไปเพื่อคนสำคัญของผม ผมต้องอุทิศตัวเองในฐานะนักเขียนมังงะให้มากขึ้น”

โดยอาจารย์ Isayama ได้ปฏิเสธว่าคนที่เขาแต่งงานคืออดีตผู้ช่วยสาว Yamamoto Arisa ซึ่งอาจารย์ไม่ได้ให้รายละเอียดอะไรเพิ่มเติมเกี่ยวกับภรรยาของเขา

“อย่างไรก็ตามผมจะวาดมังงะต่อไปในปี 2019” อาจารย์ Isayama กล่าวปิดท้าย

ขอแสดงความยินดีกับอาจารย์ Isayama ด้วยนะครับผม

Source : Hajime Isayama blog, Livedoor News/Sponichi Annex, Jin via soranews24

หนึ่งในประเพณีปีใหม่ที่คนญี่ปุ่นนิยมทำกันคือการรับประทานอาหารปีใหม่ที่เรียกว่า “โอเซจิเรียวริ (お節料理)” โดยหนึ่งในอาหารปีใหม่ก็คือ “โอะโซนิ (お雑煮)” ซุปแป้งโมจิซึ่งการรับประทานเสมือนเป็นคำอวยพรให้มีความสุขและสุขภาพดีนั่นเอง

お馴染みの雑煮です。
激烈お勧めの一品です。 pic.twitter.com/AITiBE7gla

— 蓮井佑麻 (@hsi1213) January 1, 2019

แต่ว่าโอะโซนิ ไม่ใช่อาหารที่ทานง่ายอย่างที่คิดเพราะเนื้อที่ค่อนข้างเหนียวมากทำให้เคี้ยวยาก และมันมักจะถูกเสิร์ฟมาพร้อมกับน้ำซุปร้อน ๆ ทำให้คนส่วนใหญ่ชอบกินเป็นชิ้นใหญ่ ๆ และนั่นก็คือหายนะเพราะโอะโซนิ มีสิทธิ์ที่จะติดในหลอดลมทำให้หายใจไม่ออกส่งผลถึงขั้นเสียชีวิต ซึ่งผู้มีคามเสี่ยงคือเด็กและผู้สูงอายุที่มีสุขภาพฟันไม่เหมือนคนทั่วไป

และนี่ถือเป็นปัญหาใหญ่มากเพราะว่าตำรวจดับเพลิงโตเกียวได้มีรายงานว่าเวลา 16.00 น. ของวันที่ 1 มกราคม 2019 ได้มีผู้ขอความช่วยเหลือจากการรับประทานโอะโซนิ และติดหลอดลม ซึ่งมีตั้งแต่วัย 27 – 98 ปี และมีเจ็ดคนที่เป็นผู้มีอายุ 60 ปีขึ้นไป และเหตุการณ์นี้ทำให้มีชายวัย 80 ปีจากเมืองอากิชิมะที่ทานโอะโซนิ ไปเมื่อเวลา 10.00 น. แล้วเกิดติดหลอดลมจนต้องหามส่งโรงพยาบาล และเสียชีวิตลงที่โรงพยาบาล

ทางตำรวจดับเพลิงโตเกียวได้แนะนำว่าการกินโอะโซนิ ควรหั่นเป็นชิ้นเล็ก ๆ และเคี้ยวให้ละเอียดก่อนกลืน โดยญาติผู้ใหญ่ควรดูแลการทานโอะโซนิ ของเด็กและผู้สูงอายุอย่างใกล้ชิดด้วย

สำหรับอาหารปีใหม่อย่างเจ้าโอะโซนิ ไม่ใช่ปัญหาที่พึ่งเกิดแต่อย่างใด โดยเมื่อตอนเทศกาลปีใหม่ 2018 มีรายงานผู้ชายวัย 50 ปีและ 90 ปี รับประทานโอะโซนิ และติดคอไม่สามารถเอาออกมาได้ทันจนเสียชีวิตในที่สุด ซึ่งเราเคยรายงานข่าวนี้เอาไว้ สามารถเข้าไปอ่านกันได้เลยนะครับผม

Source : NHK News Web, Otakomu via soranews24

ชาวเน็ตญี่ปุ่นสายท่องเที่ยว จัดอันดับสถานที่ที่เหมาะกับการชมดวงอาทิตย์แรกแห่งปี 2019

สำหรับสายท่องเที่ยวเชิงธรรมชาติ หรือเอาจริง ๆ ก็แม้แต่คนทั่วไป น้อยคนนักที่จะบอกว่าการได้มองดวงอาทิตย์แรกของปี ตัดกับขอบฟ้า ที่กำลังเคลื่อนตัวขึ้นมาเพื่อบอกว่าเข้าสู่ปีใหม่แล้ว เป็นเรื่องที่ไม่น่าสนใจ หรือกับแค่แสงแรกของวัน ก็ยังมีคนที่มองว่ามันเป็นสิ่งสำคัญ เป็นจุดเริ่มต้นของอะไร ๆ ได้ ก็เป็นวิธีคิดที่เป็นที่นิยมไปอีกแบบ

อย่างที่บอกว่าการขึ้นของดวงอาทิตย์นั้นเป็นสัญลักษณ์เกี่ยวกับการเริ่มต้นอะไรใหม่ ๆ โอกาสใหม่ ๆ ดังนั้นการบันทึกภาพช่วงเวลาสำคัญนี้เอาไว้จึงเป็นเรื่องที่หลายคนซีเรียส โดยเฉพาะในปี 2019 นี้ ซึ่งสำหรับชาวญี่ปุ่นแล้ว เป็นปีสุดท้ายที่จักรพรรดิ์อากิฮิโตะครองราชย์ ก่อนที่จะสิ้นสุดยุคเฮเซ

เว็บไซต์ Jalan.net ได้จัดทำแบบสำรวจขึ้นในช่วงวันที่ 21 – 31 ตุลาคม 2018 โดยมีผู้เข้าร่วมทำแบบสอบถามเป็นชายหญิงอายุ 10 – 60 ปี จาก 47 จังหวัดทั่วญี่ปุ่น ทั้งหมด 4,271 คะแนน ในหัวข้อว่า “จังหวัดหรือเมืองที่อยากไปดูดวงอาทิตย์แรกของปี” ซึ่งก็ได้คำตอบดังนี้

อันดับที่ 5 – ชายหาดคาตาเสะตะวันออก จังหวัดคานางาวะ (ดวงอาทิตย์ขึ้นราว 6.50 น.)

初日の出撮影してきた〜!!
今年も1年よろしくお願いしますm(_ _)m#初日の出#片瀬海岸東浜#旅するマヤ pic.twitter.com/4090ZFlrdH

— モリゾー進化中!? (@Wahaku02_maimai) December 31, 2017

ชายหาดของจังหวัดคานางาวะ ที่อยู่ทางทิศใต้จากโตเกียว เป็นหนึ่งในจุดชมแสงอาทิตย์ยามเช้ายอดนิยม ด้วยบรรยากาศที่ดวงอาทิตย์กำลังขึ้นมาพบกับหมู่เกาะมิอุระ และใกล้ ๆ กันยังมีเกาะเอโนชิมะ ที่มีศาลเจ้าอีกด้วย เรียกว่าดูดวงอาทิตย์ไปขอพรไปได้เลย

อันดับที่ 4 – ตึกจิบะ พอร์ท ทาวเวอร์ จังหวัดจิบะ (ดวงอาทิตย์ขึ้นราว 6.50 น.)

急遽、真夜中から長尾の運転で児玉と３人でドライブしてきた！再びお台場行って最後は千葉ポートタワーで日の出(^O^)途中爆睡したけど楽しかった♪ pic.twitter.com/fWbcNcd20H

— しょぴお (@fuji_shoppy) September 9, 2013

จังหวัดจิบะ สถานที่ที่ใครก็รู้จักว่าอยู่ใกล้โตเกียว และยังเป็นที่ตั้งของโตเกียวดิสนีย์แลนด์ กับโตเกียวดิสนีย์ซี แม้จะมีทะเลเป็นจุดชมวิวยอดฮิต แต่หากเป็นที่สูงล่ะก็ ตึกจิบะ พอร์ท ทาวเวอร์ เป็นตัวเลือกอันดับต้น ๆ ได้แบบไม่ต้องสงสัย

จากภาพจะเห็นว่ามีส่วนที่เป็นกระจกอยู่ภายในตึกด้วย ถ้าหากได้ขึ้นไปมองจากตรงนั้น จะได้ภาพมุมกว้างที่ไม่เหมือนที่ไหนเลยทีเดียว

อันดับที่ 3 – ชายหาดอุปปะมะ จังหวัดโอกินาวะ (ดวงอาทิตย์ขึ้นราว 7.17 น.)

＼宿インスタ更新しました1/4/2019 9:26:08 AM

งาน Comiket นอกจากจะเป็นงานซื้อขายโดจินที่ใหญ่ที่สุดในโลก ยังถือเป็นการที่เหล่าคอสเพลย์เยอร์จะมาปล่อยของกันอย่างเต็มที่ ไม่ว่าจะเป็นคอสเพลย์เยอร์ชื่อดังหรือคอสเพลย์เยอร์ที่พึ่งเปิดตัว

โดยในงาน Comiket ครั้งที่ 95 คุณ Enako ผู้ได้ชื่อว่าเป็นคอสเพลย์เยอร์อันดับหนึ่งของญี่ปุ่น ได้ปรากฏตัวในงานด้วยชุด Ultimate Madoka จาก Mahou Shoujo Madoka Magika โดยเธอได้ปรากฏตัวในพื้นที่คอสเพลย์ด้านนอก Tokyo Big Sight ซึ่งเธอได้มางานในวันที่ 2 มาดูบรรยากาศกันว่าคนให้ความสนใจขนาดไหน

どれくらいの距離かわからんがこの状況でストロボ意味あんのか？#コミケ#えなこ pic.twitter.com/VuW0uOnWxG

— みそくそ (@qWP8Yga4XTuay8j) December 30, 2018

コミケ名物えなこりんの囲み#C95 #C95コスプレ#えなこ #えなこりん pic.twitter.com/sHK7ybJ1ki

— ドルディー (@doldd) December 30, 2018

冬コミ2日目お疲れ様でした！
企業ブースの後はコス広場でアルティメットまどか(まどマギ)のコスプレしてました！

たくさんの方に撮影していただけて嬉しかったです(*´◒`*)
寒い中ありがとうございました…！！#C95 pic.twitter.com/7jSTwO9h4p

— えなこ (@enako_cos) December 30, 2018

12/30 コミケ2018
えなこさん@enako_cos ③#えなこ #えなこりん #c95 #c95コスプレ pic.twitter.com/FMwraDMYxZ

— 純情のぴろぴろ@ぴろちぃ@ぴろきゅん (@piropirosan) December 30, 2018

「ママー！！」「おしり出せー！！」は流石に笑いそうになった#えなこ pic.twitter.com/M6PIkUwMKg

— 1/3/2019 12:00:45 PM

ผู้จัดงาน Comic Market หรือ Comiket งานซื้อขายโดจินที่ใหญ่ที่สุดของญี่ปุ่น กำลังมีการพิจารณาการเก็บค่าเข้างานในรูปแบบใหม่ คือจะไม่เก็บค่าเข้างานหากว่าผู้ร่วมงานไม่อยู่เกินระยะเวลาที่ทางผู้จัดกำหนด หลังจากที่มีการพิจารณาว่าจะจัดเก็บค่าเข้างานใน Comiket ครั้งที่ 96 และ 97 เนื่องจากมีการเปลี่ยนสถานที่จัดงาน

ตัวแทนคณะกรรมการจัดงาน Comiket คุณ Ichikawa Kouichi กล่าวว่า “สำหรับทุกคนที่ต้องการจะเข้าร่วมงาน Comiket ไม่ว่าอย่างไรก็ได้เข้าร่วม เราอยากให้มีช่วงเวลาเข้างานฟรีสำหรับทุกคนนะ” คุณ Ichikawa หวังว่าการเปลี่ยนนโยบายนี้จะทำให้อีเวนต์มีความคล่องตัวทางการเงินสูงขึ้น เขากล่าวอีกว่าเขาไม่ได้ต้องการให้จำนวนคนเข้างานลดลงเพราะค่าเข้างาน แต่เขากังวลเรื่องรายได้ที่จะเข้ามาว่าจะพอจ่ายให้กับสตาฟฟ์ทุกคนมากกว่าหรือเปล่า

ปกติแล้ว Comiket จะไม่มีการเก็บค่าเข้างาน แต่ว่าผู้ร่วมงานสามารถซื้อแคตาล็อกสำหรับแนะนำงานแทนได้ ซึ่งหากใช้ระบบใหม่ผู้เข้าร่วมงานที่ไม่ได้ซื้อแคตาล็อกจะต้องซื้อสายรัดข้อมือ ซึ่งปกติแล้วสายรัดข้อมือจะมีให้สำหรับผู้จัดบูธหรือเซอเคิลโดจิน เพื่อให้สะดวกในการผ่านเข้างาน

แต่ว่าผู้จัดงาน Comic Market งานขายโดจินที่ใหญ่ที่สุดของญี่ปุ่น ได้เผยเอกสารที่บอกว่าทางผู้จัดกำลังพิจารณาเก็บค่าเข้างานใน Comiket 96 และ Comiket 97 เนื่องจากการเปลี่ยนสถานที่จัดงานชั่วคราว

โดยเอกสารได้อธิบายถึงมาตราการเก็บค่าเข้างานเนื่องจากค่าใช้จ่ายในการจัดสถานที่ใหม่เพิ่มมากขึ้น และยังต้องจัดถึง 4 วันในสองสถานที่ ซึ่งพื้นที่มีขนาดเล็กลงทำให้บูธโดจิน, บูธโฆษณา และโฆษณาเชิงพาณิชย์ต่าง ๆ ลดลง ซึ่งในเอกสารอธิบายเพิ่มว่าการเก็บเงินจะช่วยลดความแออัดของพื้นที่ด้วย ในตอนนี้กำลังอยู่ในขั้นตอนการพิจารณา ซึ่งหากมีการเปลี่ยนแปลงใด ๆ จะแจ้งให้ทราบในภายหลัง

สำหรับ Comic Market ครั้งที่ 96 ซึ่งจะจัดขึ้นในวันที่ 9 สิงหาคม – 12 สิงหาคม 2019 และครั้งที่ 97 ซึ่งจัดขึ้นวันที่ 28 ธันวาคม – 31 ธันวาคม 2019 โดยถือเป็นครั้งแรกของงานนี้ที่จัด 4 วันนับตั้งแต่ปี 1975 ที่จัดงานครั้งแรก

ส่วนสถานที่จัดงาน ซึ่งเคยเป็น Tokyo Big Sight สถานที่จัดงานมานานกว่า 20 ปีจะมีการปรับปรุงครั้งใหญ่เพื่อต้อนรับ Tokyo Olympic ในปี 2020 ทำให้งานไม่สามารถจัดที่ East Exhibition Hall ในปี 2019 ได้ ฉะนั้นในปีหน้า สำหรับบูธโดจินทั่วไปจะจัดที่ West Exhibition Hall และพื้นที่อีกสองส่วนใน South Exhibition Hall (ซึ่งอยู่ในระหว่างการก่อสร้าง) อย่างไรก็ตามบูธบริษัท และบูธ official ต่าง ๆ จะจัดที่ Aomi Exhibition Hall (อยู่ในระหว่างการก่อสร้างเช่นกัน) โดยจะอยู่ใกล้ ๆ กับ Tokyo Teleport Station ซึ่งต้องนั่งรถไฟจากสถานี Tokyo Big Sight (สถานี Kokusai Tenjijo) ด้วยสาย Rinkai มา 1 สถานี

Source : The Mainichi Shimbun’s Mantan Web via ANN

เมื่อวันที่ 27 ธันวาคม 2018 ที่ผ่านมา อาจารย์ Takahashi Youichi ผู้วาดมังงะ Captain Tsubasa ได้รับรางวัลพลเมืองเกียรติยศเมืองคัตสึชิกะ โดยอาจารย์ Takahashi ได้รับรางวัลเนื่องจากทางเมืองได้รับการสนับสนุนมากมายผ่านผลงานมังงะของอาจารย์

เจ้าหน้าที่เมืองคัตสึชิกะได้ยกย่องมังงะ Captain Tsubasa ที่มีส่วนช่วยให้เมืองเติบโตขึ้นอย่างมากหลังจากที่ซีรีส์นี้ได้เริ่มลงในนิตยสาร Weekly Shonen Jump เมื่อปี 1981 โดยทางเมืองได้ร่วมกับมังงะเรื่องนี้ผ่านโฆษณาบนรสบัสและรูปปั้นทองสัมฤทธิ์ที่ตั้งอยู่ภายในเมือง และยังได้จัดแคมเปญ Captain Tsubasa Cup, Gotta Win! การแข่งขันฟุตบอลระดับเยาวชนเพื่อชักชวนให้นักท่องเที่ยวเข้ามาในเมือง รวมถึงทำให้เหล่าชายหนุ่มมีความกระตือรือร้น

อาจารย์ Takahashi ที่ตื่นเต้นอย่างมากระหว่างพิธีรับรางวัลกล่าวว่า “ผมได้รับการเลี้ยงดูในเมืองคัตสึชิกะโดยพ่อแม่และคุณปู่ วันนี้ผมอยากบอกแม่ว่ารู้สึกเป็นเกียรติมากที่ได้รับรางวัลนี้ ผมต้องบอกพ่อแม่และคุณปู่หน้าหลุมศพของพวกเขาด้วย”

นอกจากนี้อาจารย์ Akimoto Osamu และผู้กำกับภาพยนตร์ Yamada Yoji ยังได้มาร่วมพิธีและมอบรางวัล โดยอาจารย์ Takahashi กล่าวว่าเขาจะสร้างผลงานต่อไปและทำตัวอย่างตามอาจารย์ Akimoto และคุณ Yamada

และเมื่อถูกถามว่าจะทำอะไรต่อไป อาจารย์ Takahashi กล่าวว่า “ความฝันของผมคือได้ทำงานร่วมกับสโมสร Nankatsu ในคัตสึชิกะและไปถึง J League วันนี้ผู้คนจากคัตสึชิกะจะมีสโมสร J1 และสนามฟุตบอลนเมืองแน่นอน”

ทางทีมงาน Akibatan ขอแสดงความยินดีกับอาจารย์ Takahashi ด้วยนะครับผม

Source : Comic Natalie via ANN

เหมือนเป็นธรรมเนียมไปแล้วว่าไม่ว่าจะเทศกาลเฉลิมฉลองอะไร เหล่านักวาด นักเขียน และทีมงานอนิเมะต่างๆ จะออกมาร่วมฉลองกันด้วยภาพเนื่องในโอกาสนั้นๆ กัน และแน่นอนว่าในโอกาสขึ้นปีใหมา 2019 นี้เองหลายๆ ท่านก็ไม่พลาดที่จะมาร่วมแสดงฝีไม้ลายมือกันผ่านทางทวิตเตอร์ส่วนตัวกันอย่างเต็มที่ ทางเราจึงได้หยิบตัวอย่างมาให้ดูกันบางส่วน ว่าแล้วก็ตามไปดูกันเลย

จากสตูดิโอ Kyoani

Happy New Year 2019
Wishing you good health and happiness in this new year.
All the staff of Kyoto AnimationExternal Link pic.twitter.com/p8AJkglgSo

— 京都アニメーション (@kyoani) December 31, 2018

จากทวิตเตอร์ของมังงะ Hansawa-san

Happy New Year
新年を記念して、犯沢さん年賀状、そしてリアルポメ太郎の特別ショットをどうぞ
よい1年になりますように1/3/2019 9:55:11 AM

เว็บไซต์ Eiga.com ที่คอยเก็บสถิติรายได้ภาพยนตร์ที่เข้าฉายในประเทศญี่ปุ่น ได้เปิดเผย 10 อันดับภาพยนตร์ที่ทำรายได้มากที่สุด ในปี 2018 ที่ผ่านมา โดยจะแบ่งเป็นภาพยนตร์ของญี่ปุ่นเอง และภาพยนตร์จากต่างประเทศ ส่วนจะมีเรื่องไหนบ้างมาดูกัน

10 อันดับภาพยนตร์ในประเทศ ที่ทำรายได้มากที่สุดในญี่ปุ่นปี 2018

อันดับ 1 – Gekijouban Code Blue – Doctor Heli Kinkyuu Kyuumei รายได้ 9.23 พันล้านเยน
อันดับ 2 – Detective Conan: Zero the Enforcer รายได้ 9.18 พันล้านเยน
อันดับ 3 – Eiga Doraemon: Nobita no Takarajima รายได้ 5.37 พันล้านเยน
อันดับ 4 – Shoplifters รายได้ 4.53 พันล้านเยน
อันดับ 5 – Gintama 2: Okita wa Yaburu tame ni Koso Aru รายได้ 3.65 พันล้านเยน
อันดับ 6 – Destiny: Kamakura Monogatari รายได้ 3.21 พันล้านเยน
อันดับ 7 – One Cut of the Dead รายได้ 3.12 พันล้านเยน
อันดับ 8 – Pokémon the Movie: The Power of Us รายได้ 3.09 พันล้านเยน
อันดับ 9 – Killing for the Prosecution รายได้ 2.9 พันล้านเยน
อันดับ 10 – Mirai รายได้ 2.88 พันล้านเยน

โดยสถิติเมื่อปี 2017 ภาพยนตร์ในประเทศอันดับ 1 ได้แก่ Detective Conan: The Crimson Love Letter ด้วยรายได้ 6.89 พันล้านเยน

10 อันดับภาพยนตร์ต่างประเทศ ที่ทำรายได้มากที่สุดในญี่ปุ่นปี 2018

อันดับ 1 – Jurassic World: Fallen Kingdom รายได้ 8.07 พันล้านเยน
อันดับ 2 – Star Wars: The Last Jedi รายได้ 7.5 พันล้านเยน
อันดับ 3 – Bohemian Rhapsody รายได้ 7 พันล้านเยน
อันดับ 4 – The Greatest Showman รายได้ 5.2 พันล้านเยน
อันดับ 5 – Coco รายได้ 5 พันล้านเยน
อันดับ 6 – The Incredibles 2 รายได้ 4.9 พันล้านเยน
อันดับ 7 – Mission: Impossible – Fallout รายได้ 4.72 พันล้านเยน
อันดับ 8 – Avengers: Infinity War รายได้ 3.73 พันล้านเยน
อันดับ 9 – The Boss Baby รายได้ 3.44 พันล้านเยน
อันดับ 10 – Ready Player One รายได้ 2.55 พันล้านเยน

ส่วนสถิติปี 2017 ภาพยนตร์ต่างประเทศอันดับ 1 ได้แก่ Beauty and the Beast ด้วยรายได้ 12.4 พันล้านเยน

Source: Eiga.com via ANN

Otaku Coin คือเงินตราชุมชน ที่จะเป็นตัวกลางให้กับเหล่าผู้คนที่ชื่นชอบอนิเม มังงะ และวิดีโอเกมจากญี่ปุ่น โดยมีเป้าหมายเพื่อผลักดันให้เกิดการพัฒนา ผ่านทางการหมุนเวียน และการใช้งาน Otaku Coin เรากำลังค้นหาความเป็นไปได้ของมัน ในฐานะเงินตราชุมชนที่แฟน ๆ สามารถใช้มันเพื่อเข้ามามีส่วนร่วมกับการพัฒนาในอุตสาหกรรมที่สร้างสรรค์ผลงานอนิเม มังะ และวิดีโอเกมที่พวกเขาชื่นชอบ ด้วยความช่วยเหลือจากผู้ดูแล รวมไปถึงผู้เชี่ยวชาญพิเศษในด้านการรักษาความปลอดภัยไซเบอร์ และนักบัญชีผู้มีความรู้ความสามารถเป็นอย่างมากเกี่ยวกับ blockchain เราจึงสามารถสร้างเงินตราชุมชนที่ปลอดภัย เพื่อให้ผู้ใช้งานสามารถใช้มันได้อย่างมั่นใจ

สมาคม Otaku Coin กำลังมีกิจกรรมแบบจำกัดเวลา ที่เรียกว่า “กิจกรรมมอบ Otaku Coin เป็นของขวัญ” โดยเริ่มตั้งแต่วันพุธที่ 26 ธันวาคม 2018 ไปจนถึงวันอาทิตย์ที่ 31 มีนาคม 2019 เพื่อแจก Otaku Coin หรือ เงินตราชุมชนสำหรับวัฒนธรรมอนิเม มังงะ และวิดีโอเกมจากญี่ปุ่นโดยเฉพาะ ให้กับผู้ที่ชื่นชอบวัฒนธรรมญี่ปุ่นดังกล่าวนี้ที่อยู่รอบโลกกันแบบฟรี ๆ ผ่านทางแอพลิเคชันอย่างเป็นทางการของโครงการอย่าง Otaku Coin App ที่ตอนนี้มีให้ดาวน์โหลดแล้ว ทั้ง iOS และ Android

ในฐานะที่เป็นส่วนหนึ่งของ “กิจกรรมมอบ Otaku Coin เป็นของขวัญ” ผู้ที่ดาวน์โหลดแอพ พร้อมยืนยันตัวและเปิดใช้งานเสร็จสิ้น 10,000 รายแรก จะได้รับ Otaku Coin จำนวน 3,000 เหรียญทันทีโดยไม่มีค่าใช้จ่าย และหากใช้งานแอพดังกล่าวเพื่อส่งข้อความสนับสนุนไปยังสตูดิโออนิเมญี่ปุ่น ที่สร้างสรรค์ผลงานอันเป็นที่รักของคนทั่วโลก จะยังได้รับ Otaku Coin เพิ่มอีก 300 เหรียญทันที ข้อความแสดงการสนับสนุนให้กำลังใจของแฟน ๆ จากทั่วโลก จะถูกรวบรวม และคัดแยกเพื่อทำเป็นโปสเตอร์ ส่งไปยังสตูดิโอแต่ละเจ้าโดยตรง

ตัวอย่างโปสเตอร์ที่เคยถูกส่งไปให้สตูดิโอแล้ว

รายละเอียดเกียวกับกิจกรรมมอบ Otaku Coin เป็นของขวัญ

ระยะเวลากิจกรรม: 26 ธันวาคม 2018 (พุธ) ถึง 31 มีนาคม 2019 (อาทิตย์)
ผู้เข้าร่วมกิจกรรม: ใครก็ได้ที่ชื่นชอบในวัฒนธรรมญี่ปุ่น และดาวน์โหลดแอพลิเคชัน Otaku Coin App

วิธีร่วมกิจกรรม:

1. ดาวน์โหลด Otaku Coin App พร้อมติดตั้ง และยืนยันตัวตนให้เสร็จสิ้น เพื่อรับ Otaku Coin จำนวน 3,000 เหรียญ
2. รับอีก 300 เหรียญ โดยส่งข้อความแสดงการสนับสนุนไปยังสตูดิโอที่ชื่นชอบ ผ่านทาง Otaku Coin App

รายละเอียดเพิ่มเติม เอกสารโครงการ และโรดแมปด้านล่างนี้

• เอกสารโครงการ: https://otaku-coin.com/…/ConceptPaperEN_DL.pdf
• โรดแมป: https://otaku-coin.com/…/Roadmap.pdf
• เว็บไซต์ Otaku Coin (ภาษาญี่ปุ่น) https://otaku-coin.com/…/
• บัญชี Twitter ของ Otaku Coin (ภาษาญี่ปุ่น) External Link

ได้มีการเปิดตัวเว็บไซต์เมื่อวันที่ 29 ธันวาคม 2018 ที่ผ่านมา ว่าไลท์โนเวลเรื่อง Cop Craft Dragnet Mirage Reloaded ของอาจารย์ Gatoh Shoji กำลังจะถูกสร้างออกมาเป็นอนิเมะฉายในปี 2019 แล้ว โดยที่ร้านเครื่องใช้ไฟฟ้า Onoden ในย่าน Akihabara ก็ได้ขึ้นป้ายประกาศเป็นภาพเดียวกับ Visual ที่เห็นอยู่ด้านบนด้วย

Cop Craft Dragnet Mirage เป็นเรื่องราวสไตล์ “แอคชั่นคู่หูตำรวจ” เกิดขึ้นใน San Teresa City บนเกาะสมมติในทะเลแปซิฟิกชื่อ Kariaena ที่ซึ่งประตูของสองโลกถูกเปิดขึ้น ทำให้ผู้คนจากโลกทั้งสองฝั่งได้อาศัยร่วมกัน จนถูกเรียกว่าเป็น “เมืองในฝัน” แต่ในมุมมืดของเมืองนั้นกลับมีอาชญากรรมเกิดขึ้นมากมาย เป็นหน้าที่ของ คู่หู Matoba Kei นักสืบและ Tirana อัศวินจากต่างโลก ที่นิสัยต่างกันโดยสิ้นเชิง ต้องออกสืบสวน และผดุงความยุติธรรมของสองโลก

ตัวไลท์โนเวลวาดภาพประกอบโดยอาจารย์ Murata Range (Last Exile, Blue Submarine No. 6) เริ่มตีพิมพ์อยู่ใน Gagaga Bunko มาตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน 2009 โดยเล่ม 7 มีกำหนดออกในฤดูร้อน 2019 นี้

Sources: Cop Craft anime’s official website, Comic Natalie, MoCa News

ใครเป็นสายเฟทิชถุงน่องต้องติดตามข่าวนี้ เมื่อมีการประกาศสร้างอนิเมะบนเว็บชื่อ Miru Tights ที่จะเป็นเรื่องราวของสาวๆ ผู้ใส่ถุงน่อง และแน่นอนว่าเรื่องนี้จะเน้นไปที่ถุงน่องของพวกเธอ โดยจากตัวอย่างที่ออกมาเราจะได้เห็น 3 สาวมัธยมปลาย Yua, Ren และ Homi ในอิริบทต่างๆ ที่มันชวนปลุกพลังเฟทิชถุงน่องเสียเหลือเกิน โดยอนิเมะเรื่องนี้จะได้ Yomu นักวาดผู้ชื่นชอบการวาดสาวๆ ใส่ถุงน่องมาเป็นผู้แต่งเนื้อเรื่อง ส่วนอนิเมะมีกำหนดฉายในญี่ปุ่นฤดูร้อน 2019 นี้

ทีมงานหลักของอนิเมะ

• ผู้กำกับ Ogawa Yuki (Oya-san wa Shishunki!)
• เขียนบทโดย Maruto Fumiaki (Classroom Crisis, Saekano)
• ออกแบบตัวละครโดย Hibino Yukari
• แต่งเพลงประกอบโดย Shade
• สร้างโดย Yokohama Animation Lab

Source: Comic Natalie via ANN

ป่าฆ่าตัวตาย ที่คนนอกมองเป็นเรื่องท้าทายชวนสยองขวัญ แต่คนในท้องถิ่นกลับไม่คิดอย่างนั้น และอยากทำลายภาพลักษณ์แย่ ๆ นั้นเสีย

หมู่บ้านนารุซาวะ จังหวัดยามานาชิ เป็นที่ขึ้นชื่อว่ามี “ดินแดนมรณะ” ที่เรียกกันว่า “ป่าฆ่าตัวตาย” ที่มักจะมีผู้คนที่หมดหวังในชีวิตเลือกใช้เป็นสถานที่ฝากร่างเอาไว้เป็นครั้งสุดท้าย ก่อนที่จะจากโลกไปก่อนเวลาอันควร

แต่ที่นั่นยังมีสิ่งหนึ่งที่ผิดความคาดหมาย คือกระท่อมหลังหนึ่งในบริเวณใกล้ป่าแห่งนั้น ที่มักจะเปิดเพลงออกมาให้กับผู้คนที่เข้ามาในป่าด้วยความคิดสั้นได้ฟัง เพื่อให้หยุดนึกคิด ทบทวนถึงสิ่งที่จะทำ ก่อนที่จะตัดสินใจทำอะไรที่ย้อนกลับมาแก้ไขไม่ได้ลงไป

นั่นคือกระท่อมของคุณ Watanabe Kyochi นักดนตรีในวัย 60 ปี ที่ต่อสู้กับคำสาปมรณะในป่าแห่งนี้มายาวนานถึง 8 ปี ด้วยการเปิดเพลงให้ลั่นป่า หวังว่าให้คนที่คิดจะมาฆ่าตัวตาย ได้ทบทวนอีกครั้ง แม้ป่า “อาโอกิงาฮาระ” แห่งนี้จะโด่งดังไปจนถึงต่างประเทศ จนถึงขั้นมีชาวต่างชาติเข้ามาลองของ จนกลายเป็นประเด็นดราม่าลงหนังสือพิมพ์ระดับประเทศก็ตาม

คลิปวิดีโอของชาวต่างชาติรายนั้น ทำให้คุณ Watanabe ไม่พอใจเป็นอย่างมาก ในฐานะคนที่เกิดและอาศัยอยู่ใกล้ป่าดังกล่าวมาตลอดชีวิต ด้วยความเชื่อว่ามันคือป่าธรรมชาติ ป่าแห่งศาสนา หาใช่สถานที่อัปมงคลอย่างที่ชาวต่างชาติรายนั้นกล่าวเอาไว้แต่อย่างใด อีกทั้งยังไม่พอใจที่ผู้คนต่างนิยามป่าแห่งนี้ว่าเป็นป่านรก จนดูเหมือนเป็นแฟชันเอาไว้กล่าวถึงเวลาจะเล่าเรื่องขนหัวลุกเสียอย่างนั้น

คุณ Watanabe อาศัยอยู่ที่กระท่อมริมป่าดังกล่าว ที่จริง ๆ แล้วชื่อของมันมีความหมายว่า “แดนต้นไม้สีน้ำเงิน” เมื่อตะวันตกดิน เขาจะหันลำโพงออกจากบ้าน จากนั้นจึงเปิดเพลงร็อค ฮิปฮอป เข้าไปในความมืด เพื่อทำลายบรรยากาศเงียบสงัดชวนให้ฟุ้งซ่านออกไป ด้วยความเชื่อว่าดนตรีนั้นจะเข้าไปถึงจิตใจเบื้องลึกของผู้คนได้ง่ายกว่า และหวังว่าคนที่ได้ยินเพลงของเขา จะหันหน้าหนีจากการฆ่าตัวตาย กลับไปใช้ชีวิตต่อ บางครั้งหากไม่เปิดเพลง เจ้าตัวก็จะเล่นกีตาร์ร้องเพลงสด และการทำแบบนี้ก็เคยทำให้ชายคนหนึ่งจากโอซาก้า ได้หยุดคิด และกลับบ้านไป ได้อยู่เหมือนกัน

“เขากลับบ้านไปแล้ว ตอนนี้เราก็ยังคุยกันบน Facebook อยู่เลย” คุณ Watanabe กล่าว

ประวัติศาสตร์ของป่าอาโอกิงาฮาระ เริ่มต้นตั้งแต่กลางศตวรรษที่ 9 เมื่อภูเขาไฟฟูจิปะทุ จนลาวาไหลมาปกคลุมพื้นที่โดยรอบ เกิดเป็นป่าขนาด 30 ตารางกิโลเมตร ผู้คนในบริเวณนี้ต่างนับถือบูชาป่าแห่งนี้ว่าเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ รวมถึงมีการตั้งศาลเจ้าเอาไว้ด้วย ทำให้กลายเป็นสถานที่ต้องห้าม ที่ถูกปกคลุมด้วยป่าทึบและตะไคร่น้ำตามพื้น

ต่อมาในช่วงปี 1970 ป่าแห่งนี้ได้โด่งดังขึ้นด้วยสื่อภาพยนตร์ ละครโทรทัศน์ และนิยาย ในฐานะสถานที่แห่งการฆ่าตัวตาย จนทำให้คนทั่วประเทศมองว่าป่าแห่งนี้เป็นอย่างนั้นจริง ๆ และแห่แหนกันเข้ามาเลือกใช้เป็นสถานที่จบชีวิตของตัวเอง จนถึงขนาดที่ว่าแม้ทางการจะเลิกระบุจำนวนผู้เข้ามาฆ่าตัวตายในป่าแห่งนี้ไปแล้ว แต่จำนวนก็ยังคงเพิ่มขึ้นอยู่เรื่อย ๆ เมื่อเวลาผ่านไป

ณ บริเวณทางเข้ามีป้ายเขียนว่า “ชีวิตเป็นสิ่งมีค่าที่ได้รับจากพ่อแม่ คิดถึงพ่อแม่ พี่น้อง ลูกหลานเอาไว้ให้ดี อย่ากังวลอยู่คนเดียว มาคุยกับเราก่อน” พร้อมเบอร์โทรศัพท์ไว้สำหรับติดต่อ

ญี่ปุ่นเป็นประเทศที่มีอัตราการฆ่าตัวตายสูงที่สุดในกลุ่ม 7 ประเทศอุตสาหกรรม มีผู้คนกว่า 20,000 รายเลือกที่จะจบชีวิตของตัวเอง ในตลอดทุกปี ซ้ำร้ายลงมาแย่ตรงที่ช่วง 8 ปีก่อนปี 2014 ที่มีการพบว่ามีผู้คนเลือกที่จะดิ่งตรงมาที่นี่ เพื่อที่จะจบชีวิตของตัวเองโดยเฉพาะ แต่ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมาก็ลดลง จนผู้คนในท้องถิ่นนั้นเริ่มคิดว่าอาจเป็นความหวังที่ทำให้ภาพลักษณ์ของป่าแห่งนี้ดีขึ้นมาก็เป็นได้

แต่ความหวังนั้นกลับพังทลายเป็นเสี่ยง ๆ เมื่อนาย Paul Logan ได้อัพโหลดคลิปที่เจ้าตัวถ่ายเอาไว้ขณะที่มาเจอกับร่างของชายที่ฆ่าตัวตายในป่านี้ ขึ้นสู่อินเตอร์เน็ต สร้างภาพลักษณ์น่ากลัวให้กับสถานที่แห่งนี้อีกครั้ง มียอดคนเข้าชมกว่าหกล้านวิว ก่อนที่เจ้าตัวจะลบคลิป ออกมาขอโทษ และบริจาคเงิน ตามลำดับ

“รอบแรกเราก็เจ็บเพราะสื่อมวลชนมาแล้วเมื่อสิบกว่าปีก่อน ตอนนี้ก็ต้องมาเจอกับโซเชียลมีเดียอีก” และ “คราวนี้มันเลยกลายเป็นที่รู้จักไปทั่วโลก ผู้คนต่างเดินทางเข้ามาเพื่อดูของแปลก” คุณ Watanabe กล่าว

แม้คลิปของนาย Paul จะเป็นเพียงหนึ่งในสาเหตุ แต่ในสื่ออื่นก็ยังคงหากินกับกระแสนี้ เช่นการสร้างภาพยนตร์เกี่ยวกับชายหนุ่มที่มาฆ่าตัวตายที่ป่าแห่งนี้ หรือแม้แต่การนำเสนอข่าวในแง่ลบ ช่วยเป็นปูนโบกให้ภาพลักษณ์ของสถานที่แห่งนี้ดำดิ่งลงไปอีก จนถึงกระทั่งมีชาวต่างชาติเข้ามาเที่ยวถามคนในท้องถิ่น ว่าจะไปดูร่างผู้ตายได้ที่ไหน ราวกับเป็นแหล่งท่องเที่ยว แบบไม่เคารพความเป็นส่วนตัวของใครทั้งสิ้น

กระนั้น สถานที่แห่งนี้ก็ยังคงดึงดูดนักท่องเที่ยวทั่วไปมาด้วยเช่นกัน อย่างกรณีของคุณ Lisa Bishop นักท่องเที่ยววัย 33 ปี จากแคนาดา ที่บอกว่าเธอมายังที่แหงนี้ เพื่อมองจากมุมของเรา ว่าจะรู้สึกอย่างไรเมื่อเดินเข้ามาถึงที่แห่งนี้ ซึ่งเธอเองก็ไม่ยอมรับการกระทำของนาย Paul ด้วยเรื่องของความเป็นส่วนตัวของคน และการกระทำของเขาเป็นเรื่องที่ผิดอย่างมาก

นี่คือเรื่องราวการต่อสู้ของคุณ Watanabe และผู้คนในท้องถิ่นแห่งนี้ ราวกับว่าเป็นหน้าที่ที่เลี่ยงไม่ได้

“เพราะผมเกิดที่นี่ ผมเลยต้องปกป้องที่นี่” “ผมคือนายทวาร ผมรู้สึกว่านั่นแหละคือหน้าที่ของผม” คุณ Watanabe กล่าว

Source: JapanToday

จะหาที่ไหนได้อีก กับเกิร์ลกรุ๊ป 5 คน ที่ฟังชื่อแล้วชวนหิวมาเป็นอย่างแรก

ในฐานะผู้หญิง หลายคนคงเคยรู้สึกว่าตัวเองถูกกดดันจากกระแสนิยมว่าด้วยเรื่องของความสวยความงาม รูปร่าง ให้ต้องเป็นไปตามนั้น อย่างที่เรียกกันว่าหุ่นแบบซินเดอเรลล่า คือต้องสูงราว 165 ซม. น้ำหนักต้องไม่มากไม่น้อยไปกว่า 49 กก. อะไรทำนองนี้

แต่เร็ว ๆ นี้ ในญี่ปุ่นได้มีกระแสการลุกขึ้นต่อต้านกระแสนิยมเหล่านั้น มีเป้าหมายคือการทำลายมาตรฐานความผอมของสังคมญี่ปุ่น โดยเหล่าสาวพลัสไซส์ มีแกนนำคือคุณ Watanabe Naomi อดีตดาราตลกที่ผันตัวมาเป็นโมเดลและดีไซเนอร์ ที่บอกให้ทุก ๆ คนพึงพอใจกับ “ส่วนโค้งเว้า” ของตัวเอง ไม่ใช่แค่กับสาว ๆ เท่านั้น แต่กับหนุ่ม ๆ ก็ด้วย

และนี่คือกลุ่มไอดอลจากญี่ปุ่น ที่เปิดตัวด้วยความยิ่งใหญ่ ไม่เหมือนกับไอดอลทั่วไปที่หุ่นเพรียวบางเหมือนออกมาจากพิมพ์เดียวกัน นั่นคือวง Big Angel กลุ่มไอดอลที่มาพร้อมกับความมั่นใจในความยิ่งใหญ่ งดงาม และอยากจะให้ทุกคนได้รู้สึกพึงพอใจกับส่วนสัดของตัวเอง

จากคลิป หัวหน้าวง Big Angel คือคุณ Gotochi Michiko หรือ “มี่จัง” ได้บอกกับผู้ชมอย่างเต็มใจ ว่าเธอนั้นสูง 167 ซม. และหนัก 109.8 กก. ซึ่งแต่ก่อนนั้นเธอเคยหนักเพียง 54 กก. เท่านั้น ซึ่งเธอได้บอกว่าในตอนนี้เธอมีความสุขมากกว่าตอนที่ผอม และน้ำหนักเหล่านี้ก็มาจากการกินอาหารแคลอรี่สูง เช่นคาราอาเกะ หรือไก่ทอด เพื่อดับเครียดนั่นเอง

เช่นเดียวกับสมาชิกคนอื่น ๆ คุณ Gotochi เองก็มีชื่อเล่นในวงที่สอดคล้องกับอาหาร อย่างของเธอคือ “คาราอาเกะ” ส่วนคนอื่นก็เช่น “แฮมและไส้กรอก”, “ข้าว”, “มายองเนส” และ “เชอร์เบตองุ่น”

แฟน ๆ ที่มาดูไลฟ์ ก็พากันพกข้าวของที่เข้ากับธีมของพวกเธอมาด้วย และในกรณีนี้ก็คืออาหาร

ด้วยแรงสนับสนุนของแฟน ๆ พร้อมกับความฝันที่ว่าพวกเธอตั้งเป้าจะออกไปทัวร์ระดับโลกให้ได้ เราก็อาจจะได้เห็นเธอ หรือกลุ่มไอดอลที่มีแนวทางคล้าย ๆ กับพวกเธอปรากฎขึ้นในประเทศต่าง ๆ ได้เช่นเดียวกัน แต่บอกไว้ก่อนเลยว่าพวกเธอนั้นเมื่อรวมกันแล้วมีน้ำหนักกว่า 400 กก. เชียว ยุคของไอดอลหุ่นหนุบหนับมาถึงแล้ว!

แทนที่จะหนีจากการโดนด่าว่าอ้วน คุณ Gotochi ก็บอกว่าเราก็หันมาโอบกอดมันไว้ แล้วทำให้ตัวเองกลายเป็นไอดอลอ้วนไปเสียจะดีกว่า การคิดบวกนั้นดีต่อชีวิต ทั้งกับตัวเรา และคนรอบข้างด้วย เนื้อเรื่องเบื้องหลังของวงพวกเธอจึงออกมาแนวฮา ๆ ว่าพวกเธอนั้นคือนางฟ้าที่ตกสวรรค์ เพราะกินมากไป จึงมีเป้าหมายว่าจะร้องจะเต้นต่างการออกกำลังกาย เพื่อให้พวกเธอนั้นสุขภาพดี และกลับไปสวรรค์ได้อีกครั้ง

ถึงจะบอกว่าในวงนั้นไม่มีความกดดันเรื่องต้องลดหุ่น แต่คุณ Gotochi เองก็บอกว่าสิ่งที่ยังคงต้องดูแลนั้นคือสุขภาพ และผลกระทบที่ตามมาจากการที่มีน้ำหนักเกินมาตรฐาน ซึ่งถ้าหากพวกเธอผอมลงและกลับไปสวรรค์ได้อีกครั้ง ก็อาจจะมีนางฟ้ารุ่นใหม่ตกจากสวรรค์ลงมาเป็นรุ่นสองของพวกเธอก็เป็นได้ …ว่าง่าย ๆ ก็คือจะแกรตได้ ก็ต้องผอมก่อนนั่นแหละ

Source: Youtube/Asian Boss via SoraNews24

สำหรับใครที่เลี้ยงน้องหมา แต่คุณก็เป็นแฟนการ์ตูนด้วย นี่คืออีกสิ่งหนึ่งที่คุณจะชอบมันแน่นอน เมื่อ Bandai ได้จับมือร่วมกับร้านขายสินค้าสัตว์เลี้ยง Petio ปล่อยแบรนด์สินค้าใหม่นามว่า Character Petio ซึ่งสินค้าชุดแรกนั่นก็คือชุดจาก Sailor Moon และ Dragon Ball สำหรับสุนัขของคุณ โดยมีแผนจะวางจำหน่ายในเดือนมีนาคม 2019

สำหรับชุดจะมีชุดของอัศวินเซเลอร์ทั้งห้า ขายในราคา 3,218 เยน และชุดแบบไม่มีกระโปรงเพื่อความสะดวกในการใส่ต่อสุนัขบางพันธุ์ราคา 2,678 เยน สำหรับชุดจาก Dragon Ball จะเอาชุดของโกคูมา ราคา 2,480 เยน

นอกจากนี้ยังมีชุดที่ให้ใส่เฉพาะแค่ขาหน้าอย่างเดียวด้วย โดยชุดนี้จะมีของ Goku, Frieza และ Vegeta วางจำหน่ายในราคา 3,218 เยน

นอกจากนี้ยังมีสินค้าอื่น ๆ ทั้งฟูกหน้า, หมอนอิง, ของเล่นและเป้ลายหน้าอุซางิกับลูน่า โดยสินค้าเหล่านี้จะวางจำหน่ายในเดือมมีนาคม 2019 ทางร้านและออนไลน์

Source : Mantan Web  via ANN