แม้ว่าระยะเวลาจะผ่านมาแล้วกี่สิบปีตลาดเกมออนไลน์ก็ยังคงได้รับความนิยมสูงขึ้นในหลายประเทศทั่วโลก โดยเฉพาะในแถบภูมิภาคเอเชียอย่างเกาหลี ในแต่ละปีมีเกมออนไลน์ตัวใหม่เปิดตัวออกมาอยู่เรื่อยๆ เรียกได้ว่าเกมออนไลน์ MMO กลายเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตของเกมเมอร์อย่างเราไปแล้ว แต่บางครั้งมันก็มากเกินไปทำให้เกมเมอร์บางคนมีเหตุผลต่างๆ ของตนเองไม่ว่าด้วยเหตุผลใดก็ตามเชื่อว่าใน 8 ข้อนี้คงมีสักข้อที่ทำให้คุณและผมเลิกเล่นเกมออนไลน์
1.เพื่อนเลิกเลยเลิกตาม
การเล่นเกมออนไลน์ทำให้เรามีเพื่อนเพิ่มขึ้นไม่ว่าในโลกแห่งความจริงหรือโลกออนไลน์ ทุกครั้งที่เราล็อคอินเข้าสู่เกมมักจะเปิดหน้ารายชื่อเพื่อนที่ได้บันทึกไว้ขึ้นมาดูก่อนทุกครั้งว่ากำลังออนไลน์หรือออฟไลน์ หากเพื่อนออนไลน์ก็ชวนกันมาปาร์ตี้ล่าบอส ตั้งทีมเล่นด้วยกันในเกมประเภท FPS หรือ MOBA แต่หากวันหนึ่งเพื่อนที่เราเล่นด้วยกันทุกวันเกิดออฟไลน์หายไปทีละคนสองคน ยิ่งไม่เห็นหน้ากันหลายวันแล้วก็อดสงสัยไม่ได้ว่าหายไปไหนกันหมด ความรู้สึกที่เคยเล่นด้วยกันอย่างสนุกเฮอากลับทำให้ความรู้สึกเหงาเปล่าเปลี่ยวเกิดขึ้นมาทันที นี้อาจจะเป็นเหตุผลที่ทำให้คุณเลิกเล่นเกมตามเพื่อนๆ ของคุณ แต่ถึงอย่างไรความสนุกเหล่านั้นได้กลายเป็นหนึ่งในความทรงจำที่ดีที่สุดในชีวิตของคุณเช่นกัน
2.เซิร์ฟเวอร์ปิดให้บริการ
งานเลี้ยงย่อมมีวันเลิกลาอีกหนึ่งเหตุผลที่ควรทำใจไว้ล่วงหน้าเมื่อคุณเล่นเกมส์ออนไลน์ไม่ว่าเกมใดก็ตามสักวันหนึ่งก็ต้องยุติให้บริการขึ้นอยู่กับว่าจะช้าหรือเร็ว ส่วนสาเหตุนั้นไม่ได้เกิดจากตัวของผู้เล่นแต่เกิดจากผู้ให้บริการมากกว่า มักจะเกิดขึ้นบ่อยจากปัญหาเซิร์ฟเวอร์ขัดข้อง เกมเก่าแล้วจำนวนผู้เล่นลดลงเข้าขั้นวิกฤตหรือตัวเกมหยุดพัฒนาไม่ได้รับการสนับสนุนจากทีมพัฒนา ซึ่งประโยคสุดคลาสสิกเหล่านี้มักเป็นเหตุผลที่ทางค่ายเกมต่างๆ มักใช้ประกอบเมื่อประกาศยุติให้บริการเกมออนไลน์ต่างๆ
3.ชอบลองของใหม่
แน่นอนคนเรามักชอบแสวงหาสิ่งใหม่ๆ เกมเมอร์อย่างเราก็เช่นกัน ช่วง 10 ปีที่ผ่านมามีเกมส์ออนไลน์หลากหลายแนวออกมาสู่สายตาชาวโลกมากมายทั้งเกมใหม่เอี่ยมหรือเกมเก่านำกลับมาทำใหม่ จนเกมส์ที่เราเล่นอยู่ถึงกับตกยุคไปในทันที เนื่องจากเกมออนไลน์ยุคใหม่มีระบบที่แปลกตาและน่าสนใจเพิ่มเข้ามามากมาย ทำให้เกมเมอร์ส่วนมากตัดใจที่จะเลิกเกมเก่าแบบไม่ลังเลเพื่อเลือกเล่นเกมใหม่ที่กราฟฟิกภาพสวยงามมากกว่า แต่ในปัจจุบันเกมส์ออนไลน์ใหม่ๆ ออกมาเยอะจนเลือกเล่นไม่ถูกอย่างแนว MMORPG และ MOBA บางครั้งเกิดอาการเบื่อหน่ายมีแต่เกมแนวเดิมๆ จนต้องตัดสินใจกลับไปเล่นเกมเก่าๆ ยังดีซะกว่า
4.แอคเคาท์โดน Hack
ปัญหาที่มักมาคู่กับเกมส์ออนไลน์คือการถูกแฮคจากเหล่า Hacker ส่วนใหญ่ผู้ที่ถูกแฮคในเกมออนไลน์จะมาในรูปแบบการขโมยข้อมูลส่วนตัว ID และ Pass แล้วทำการขโมยไอเทมภายในเกม ซึ่งมักจะพบเห็นได้บ่อย ยิ่งแอคเคาท์ของผู้เล่นคนใดมีไอเทมหรือของหายากอยู่ด้วยแล้ว เมื่อโดนแฮคน้ำตาตกกันเลยทีเดียว นี้จึงเป็นหนึ่งสาเหตุที่ทำให้เกมเมอร์บางคนต้องเลิกเล่นเกมออนไลน์
5.Pay to Win
Free-To-Play หรือ เล่นฟรี เป็นโมเดลธุรกิจยอดนิยมของเกมส์ออนไลน์ในปัจจุบัน แต่มักจะมาพร้อมกับคำว่า Pay to Win เข้าใจกันง่ายๆ คือ ยิ่งเติมยิ่งเทพ เล่นไม่เก่งพึ่งของเติมเงินจากร้าน Cash Shop มักโดนใจผู้เล่นที่มีทุนหนา แต่ไม่โดนใจผู้เล่นทั่วไปที่เน้นใช้ฝีมือเป็นหลัก เป็นการทำลายสมดุลภายในเกมจนหมดความสนุก ทำให้เกมเมอร์หลายคนตัดสินใจเลิกเล่นเกมออนไลน์ประเภท Pay to Win หันไปมองหาเกมพีซีแบบจ่ายครั้งเดียวแล้วไม่ต้องเติมเงินอีกน่าจะดีกว่า
6.Bot หรือโปรแกรมช่วยเล่น
โลกของเกมส์ออนไลน์เราอาจได้พบกับผู้เล่นจากทั่วโลกก่อเกิดเป็นสังคมขนาดใหญ่แบ่งปันความรู้ประสบการณ์แนวทางการเล่นของแต่ละคนเหมือนหลุดเข้าไปอีกโลกหนึ่ง แม้จะไม่ใช้โลกแห่งความจริง แต่ได้สร้างความสนุกสนาไปอีกแบบ ทั้งนี้ก็มีผู้เล่นบางคนกลับใช้โปรแกรมช่วยเล่นหรือที่เรารู้จัก Bot เข้ามาใช้โดยไม่ต้องลงแรงเล่นด้วยมือสองข้างเพิ่มความสะดวกสบาย
7.เปลี่ยนไปเล่นเกมคอนโซลแทน
เครื่องเกมคอนโซลเป็นอีกหนึ่งอุปกรณ์เล่นเกมที่ตอบโจทย์เหล่าเกมเมอร์ส่วนใหญ่ได้อย่างยอดเยี่ยม ยิ่งเครื่องเกมคอนโซลในปัจจุบันพัฒนาก้าวไกลให้ภาพกราฟฟิกสวยงามไม่แพ้เกมบนพีซีและยังรองรับการเล่นแบบออนไลน์ได้อีกด้วย เหล่าเกมเมอร์ที่เลิกเล่นเกมออนไลน์มักมองหาตัวเลือกใหม่อย่างเกมคอนโซลที่คิดว่าดีที่สุดในเวลานี้
8.เริ่มมองหาอนาคต
ชีวิตเกมเมอร์อย่างเราอยู่คู่กับเกมส์ออนไลน์มานานนับหลายปี สักวันหนึ่งเราก็ต้องเลิกจากกันด้วยเหตุผลที่เราเริ่มมองหาอนาคตทั้งด้านการเรียน การงาน หรือการแต่งงานมีครอบครัว แต่ความคิดของเกมเมอร์แต่ละคนนั้นไม่เหมือนกัน บางคนอาจเลิกเล่นเกมออนไลน์ตลอดชีวิต แต่เกมเมอร์บางกลุ่มยังคงเลือกที่จะเล่นเกมออนไลน์อยู่เหมือนเดิมอาจเพราะมองเห็นโอกาสทางธุรกิจที่สามารถสร้างรายได้ให้อย่างมหาศาล แม้ในสายตาของผู้คนส่วนใหญ่จะมองว่าเป็นเรื่องที่ไร้สาระ ทั้งนี้ทั้งนั้นเหล่าเกมเมอร์แต่ละคนคงต้องตัดสินใจเอาเองว่าอนาคตข้างหน้าของตนเองจะเป็นเช่นไร